10 เคล็ดลับ เลี้ยงลูกให้ฉลาด มีความมั่นคงทางอารมณ์

10 เคล็ดลับ เลี้ยงลูกให้ฉลาด
การเลี้ยงลูก

Last Updated on 2021 11 13

เชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่ทุกคนอยากให้ลูกมีร่างกายที่แข็งแรง อารมณ์แจ่มใส และมีความเฉลียวฉลาด แต่จะทำอย่างไร มีเทคนิคอะไรบ้าง วันนี้แม่โน้ตมี 10 เคล็ดลับนำมาแชร์ค่ะ แต่ก่อนที่เราจะไปดูวิธีในการเลี้ยงลูกให้ฉลาดนั้น แม่โน้ตอยากชวนคุณพ่อคุณแม่ไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับพัฒนาการทางสมองของลูกน้อยกันสักนิดก่อนค่ะ เพื่อที่เราจะได้ต่อยอดให้ลูกได้ถูกทาง

พัฒนาการทางสมองทารกหลังคลอด

2 – 5 เดือน: พัฒนาการด้านการเรียนรู้

ช่วง 2 – 3 เดือน:

ลูกน้อยเริ่มมองเห็น มองตามคนที่เดินเข้ามาหา และเริ่มรู้จักสบสายตาคุณพ่อคุณแม่ ซึ่งก็แปลว่าทารกเริ่มเข้าสู่กระบวนการในการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ชอบมองสิ่งต่าง ๆ รอบตัว

ช่วง 4 – 5 เดือน:

ลูกน้อยจะเริ่มมองตามสิ่งของที่ร่วงหล่นจากมือ เป็นช่วงที่ลูกจะชอบเล่นจ๊ะเอ๋ เป็นการทำให้ลูกน้อยได้เรียนรู้ว่า แม้บางสิ่งบางอย่างจะมองไม่เห็นแต่ก็ไม่ได้หายไปไหน เหมือนกับเวลาที่แม่โน้ตอาบน้ำ และลูกต้องนอนที่เตียงของเขา แม่โน้ตจะส่งเสียงคุยกับลูกตลอด เพื่อให้เขารู้ว่าไม่ได้ไปไหน และเขาจะไม่ร้องงอแงเลยค่ะ ซึ่งสิ่งนี้จะเป็นพื้นฐานให้ลูกมีจินตนาการที่ดีในอนาคต

6 – 12 เดือน: พัฒนาการด้านภาษา

ช่วง 6 เดือน:

ลูกน้อยจะเริ่มส่งเสียงอ้อแอ้พูดคุยกับคุณพ่อคุณแม่ได้ โดยลูกจะทำความเข้าใจว่าจะต้องสลับกันพูดสลับกันฟัง ยิ่งถ้าคุณพ่อคุณแม่สอนลูกเป็นคำสั้น ๆ ที่มีความหมาย ก็จะเป็นการช่วยกระตุ้นการเรียนรู้ด้านภาษาให้ลูกได้อีกด้วยค่ะ

ช่วง 8 – 10 เดือน:

ทารกจะเริ่มพูดได้เป็น 2 พยางค์ แต่ยังไม่รู้จักการเชื่อมโยงคำกับความหมาย เช่น ถึงแม้จะเรียก “มามา” ได้แต่ก็ยังไม่รู้ว่าหมายความว่าอะไรจนกว่าจะมีอายุราว 10 – 12 เดือน เช่น ถ้าลูกบอกว่า “หม่ำ” แสดงว่า เขาจะกิน หรือหนูหิวแล้ว เป็นต้นค่ะ

แม่โน้ตมีคลิปตัวอย่างเพิ่มเติมสำหรับคุณแม่ที่ต้องการกระตุ้นพัฒนาการทางสมองของลูกน้อยมาฝากค่ะ

 

ขอบคุณคลิปจาก : เด็กทารก Everything Channel

10 เคล็ดลับ เลี้ยงลูกให้ฉลาด

เปิดโอกาสให้ลูกได้เรียนรู้

ปกติแล้วเด็กจะเป็นวัยที่ไม่ค่อยได้อยู่นิ่ง ชอบวิ่งเล่น ปีนป่าย กระโดด และอีกสารพัดกิจกรรมที่ลูกจะหาทำ เพราะฉะนั้นเราไม่ควรปิดกั้นการเรียนรู้ของลูกด้วยคำว่า “อย่า” เพียงแต่คุณพ่อคุณแม่ต้องแน่ใจแล้วว่าสิ่งที่ลูกจะทำนั้นปลอดภัย

ให้ลูกดื่มนมแม่นานเท่าที่ลูกต้องการ

เพราะนมแม่เป็นอาหารมื้อแรกสำหรับลูกที่มีสารอาหารที่ร่างกายต้องการเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะกับสมอง

เรียนรู้จากการเล่น

เลี้ยงลูกให้ฉลาด เรียนรู้จากการเล่น

โดยเน้นกิจกรรมที่สร้างสรรค์ อาทิ วาดภาพ เกมจังก้า (เกมตึกถล่ม) ร้องเพลง หรือปลูกต้นไม้ก็ได้ค่ะ เพราะนอกจากจะได้ในเรื่องของความสนุกแล้ว ลูกยังได้ในเรื่องของพัฒนาการด้านต่าง ๆ อีกด้วยค่ะ

ชวนลูกไปออกกำลังกาย

เพราะการออกกำลังกายจะช่วยให้เลือดสูบฉีดไปเลี้ยงที่สมองได้ดี ซึ่งเมื่อสมองได้รับออกซิเจนเพียงพอ สมองลูกจะแจ่มใส พร้อมในการคิดวิเคราะห์ และเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ

เลี้ยงลูกให้ฉลาด ออกกำลังกาย

สอนลูกให้คิดบวก กับ 5 วิธีสอนลูกคิดบวก

เริ่มแรกเลยคุณพ่อคุณแม่ต้องเป็นต้นแบบที่ดีก่อนค่ะ แล้วมาบวกกับการเลี้ยงลูกในเชิงบวก ลูกก็จะซึมซับพฤติกรรมดังกล่าว และเลียนแบบพฤติกรรมของคุณพ่อคุณแม่ค่ะ

ปลูกฝังให้ลูกรักการอ่าน

คุณพ่อคุณแม่อาจหาหนังสือนิทาน หรือหนังสือภาพ มาอ่านให้ลูกฟังเป็นประจำ หรือจะอ่านให้ลูกเห็นเป็นแบบอย่างยิ่งดีเลยค่ะ แต่ที่สำคัญอย่าบังคับ อย่าดุลูกนะคะ เพราะยิ่งจะทำให้ลูกเกลียดการอ่านเลยก็เป็นได้

เลี้ยงลูกให้ฉลาด อ่านหนังสือ

รักลูก กอดลูก

ข้อนี้สำคัญค่ะ เพราะคนทุกคนก็ต้องการความรัก หากลูก ๆ ได้รับความรักขั้นพื้นฐานจากครอบครัวเต็มที่ เมื่อโตขึ้นเขาจะเป็นผู้ใหญ่ที่มีอารมณ์มั่นคง มีเหตุผล ไม่เรียกร้องความสนใจค่ะ (เรื่องนี้เป็นพื้นฐานการปลูกฝัง EQ – Emotional Quotient อีกเรื่องหนึ่งนะคะ)

โภชนาการที่ดี

อาหารที่ครบ 5 หมู่ เป็นอีกเรื่องที่สำคัญสำหรับทุกคน ซึ่งอาหารที่เน้นบำรุงสมองได้แก่ อาหารที่อุดมไปด้วยโอเมก้า 3 และ DHA

ใช้เทคโนโลยีให้เหมาะสม

ต้องยอมรับว่ายุคนี้หน้าจอเป็นอะไรที่ดึงดูดใจเด็ก ๆ มาก ในเมื่อเราหลีกเลี่ยงไม่ได้ เราก็ควรวางแผนการใช้งานให้เหมาะสม และเลือกแอปที่เหมาะสมกับลูก อย่าง YouTube Kids เพราะคุณพ่อคุณแม่สามารถบล็อกช่องที่ไม่ต้องการให้ลูกดูได้ค่ะ และควรกำหนดระยะเวลาในการดูด้วยนะคะ ใน 1 วัน ไม่ควรเกิน 2 ชั่วโมงค่ะ (เหมาะสำหรับเด็กที่มีอายุ 2 ½ ขวบ ขึ้นไป)

ชื่นชมลูก

การให้กำลังใจกันในครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญมาก เมื่อลูกทำได้ ทำดี คุณพ่อคุณแม่ควรชื่นชมลูกตามสมควรนะคะ เรื่องนี้แม่โน้ตเน้นเสมอ เพราะการชมลูกไม่ต้องกลัวว่าลูกจะเหลิง ให้ชมตามสมควร เป็นการเลี้ยงลูกเชิงบวกที่สร้าง Self-esteem (การเห็นคุณค่าในตัวเอง) ให้กับลูก ลดโอกาสเสี่ยงเป็นโรคซึมเศร้าเมื่อโตขึ้น

จากทั้งหมดที่กล่าวมาคุณพ่อคุณแม่สามารถทำได้ง่าย ๆ เลยค่ะ ค่อย ๆ เป็น ค่อย ๆ ไป รักลูก สอนลูกด้วยความรักที่ถูกทาง ผลลัพธ์ที่ได้ลูกก็จะเติบโตไปได้อย่างถูกทางเช่นกันค่ะ


Mommy Note

3,060,814 views

คุณแม่ลูกหนึ่ง ที่ใช้วิธีการเลี้ยงลูกแบบ "Tradigital" แบบดั้งเดิมผสมผสานกับความดิจิทัลในยุคปัจจุบัน เน้นเลี้ยงลูกให้เป็นคนธรรมดาที่มีสุข ติดต่องานได้ที่ e-mail : simplymommynote@gmail.com

Profile

Pickup posts

Related posts

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

Save