ทำอย่างไรเมื่อลูกไม่กล้าที่จะเริ่มใหม่ เพราะกลัวพ่ายแพ้ซ้ำอีก
Photo designed by Freepik.com
“หนูอยากชนะ” ประโยคนี้เป็นประโยคที่เชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่ทุกคนคงเคยได้ยินจากปากลูกหรือแม้แต่เด็กคนอื่น ๆ การสอนให้ลูกรู้จักรู้แพ้ รู้ชนะเป็นอะไรที่คุณพ่อคุณแม่ทุกคนคงทำอยู่แล้ว เรื่องชนะคงไม่เป็นไร แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เด็กแพ้ขึ้นมา ประเด็นจะอยู่ที่ว่า “เขาสามารถยอมรับความพ่ายแพ้นั้น และกล้าที่เริ่มต้นใหม่ได้หรือเปล่า?”
ลูกไม่กล้าที่จะเริ่มใหม่ เพราะกลัวพ่ายแพ้ซ้ำอีก
สอนให้ลูกรู้จัก และเข้าใจอารมณ์ตัวเอง
หากลูกเพิ่งเผชิญกับความพ่ายแพ้มา ให้คุณแม่ค่อย ๆ พูดคุยกับเขาด้วยทีท่าและน้ำเสียงที่อ่อนโยน ซึ่งอาจพูดกับลูกไปเลยค่ะว่า “แม่เข้าใจ แม่รู้ว่าหนูกำลังเสียใจ เพราะเรื่องนี้ใช่ไหมคะ?” การพูดแบบนี้นอกจากจะทำให้ลูกรู้จักว่าตัวเองรู้สึกอย่างไรแล้ว ยังทำให้ลุกได้รู้อีกว่า เมื่อเขาเสียใจ เขายังมีคุณพ่อคุณแม่ที่เข้าใจ และเคียงข้างเขาเสมอ
ให้ลูกได้ใช้เวลาอยู่คนเดียวอย่างเงียบ ๆ ซักพัก
หากลูกยังอยู่ในภาวะที่เสียใจ ผิดหวัง และไม่อยากคุยกับใคร คุณพ่อคุณแม่ลองปล่อยให้เขาได้นั่งนิ่ง ๆ สักพัก ประมาณ 15 นาที หลังจากนั้นค่อยเข้าไปพูดคุยกับลูกเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมแนวทางแก้ไขปัญหา รวมถึงการป้องกันการเกิดซ้ำในอนาคต
ฝึกให้ลูกมองปัญหาอย่างรอบด้าน
โดยที่คุณพ่อคุณแม่ค่อย ๆ พูดอธิบายและลำดับเหตุการณ์ต่าง ๆ ให้ลูกฟัง พร้อมทั้งชี้จุดว่าที่ลูกพลาดนั้นคือจุดไหน เพราะอะไร? และผลกระทบที่เกิดขึ้นมีอะไรบ้าง? เป็นต้นค่ะ
ลดเป้าหมายและความคาดหวัง
คุณพ่อคุณแม่จะทราบดีว่าลูกเรามีความสามารถในระดับไหน ลองพูดชวนลูกมาตั้งเป้าหมายใหม่หรือ “ใช้ความถนัดของลูก ใช้จุดแข็งของลูก” ในด้านอื่น ๆ มาตั้งเป็นเป้าหมาย โดยที่ไม่สูงเกินไปนัก
ยกตัวอย่าง Role Model ความสำเร็จของผู้ที่มีตัวตนจริง ๆ
คุณพ่อคุณแม่อาจยกตัวอย่างบุคคลที่อยู่ในกลุ่มที่ลูกชื่นชอบที่เคยพ่ายแพ้มาแล้วแต่สุดท้ายก็ประสบความสำเร็จในชีวิตได้ อาจเป็นกลุ่มนักกีฬา หรือนักธุรกิจ ฯลฯ มาเล่าให้ลูกฟัง เพื่อสร้างแรงบันดาลใจก็ได้ค่ะ
ตั้งคำถามชวนลูกคิด วิเคราะห์
จากปัญหาที่เกิดขึ้น ลองชวนลูกมาคิดหาทางป้องกันด้วยกัน ด้วยการให้คุณพ่อคุณแม่ตั้งคำถามปลายเปิดดู เพื่อให้ลูกได้รู้ทิศทางของตัวเองมากขึ้น และยังเป็นการเสริมพัฒนาการลูกด้านการคิดวิเคราะห์อีกด้วยค่ะ
สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่กลัวไม่ใช่แค่ว่าลูกจะพ่ายแพ้ แต่กลัวว่าลูกจะไม่กล้าเริ่มใหม่ต่างหาก เพราะฉะนั้นการสอนให้ลูกได้เข้าใจและยอมรับว่าโลกนี้มีทั้งแพ้และชนะจึงเป็นเรื่องจำเป็น ซึ่งต้องใช้เวลาพอสมควร เป็นกำลังใจให้ทุกครอบครัวนะคะ