ลูกสมาธิสั้น หรือแค่ซน แยกได้อย่างไร?
ลูก ๆ วิ่งเล่นกันทั้งวัน ขนาดเหงื่อออกยังนั่งพักนิ่ง ๆ ได้ไม่ถึง 3 นาที กินข้าวก็ยังนั่งไม่นิ่งเลย เดี๋ยวก็ลุกเดินไปหยิบของเล่น แบบนี้คือเรียกว่า เด็กซนตามวัยปกติ หรือ สมาธิสั้น กันแน่คะ แยกไม่ออก แม่โน้ตเชื่อว่ามีคุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ คนสงสัยและเกิดความกังวลในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก วันนี้เราจะไปทำความรู้จักกกับ 2 สิ่งที่ว่านี้กันค่ะ
เด็กที่ซนปกติ
โดยทั่วไปแล้วเด็กในแต่ละช่วงวัยจะมีสมาธิที่สั้นและยาวไม่เท่ากัน ดังนี้
เด็กเล็กในช่วงอายุไม่เกิน 1 ขวบ
- จะมีสมาธิได้ไม่เกิน 2-3 นาที
ช่วงอายุ 1-2 ขวบ
- จะมีสมาธิได้ประมาณ 3-5 นาที
ช่วงวัยอนุบาล
- จะมีสมาธิได้ประมาณ 5-15 นาที
ช่วงประถมตอนต้น
- จะเริ่มนานขึ้นเป็น 15-30 นาทีขึ้นไป
จากข้อมูลข้างต้น คุณพ่อคุณแม่สามารถสังเกตเห็นได้อย่างหนึ่งค่ะว่า เด็กโตจะมีสมาธิที่ยาวนานมากกว่าเด็กเล็ก ดังนั้น ไม่ควรเอาเด็กโตมาเปรียบเทียบกับเด็กเล็ก เพราะนอกจากจะไม่ได้ประโยชน์แล้ว ยิ่งเป็นการทำให้ตัวคุณพ่อคุณแม่กังวลไปอีกด้วยนะคะ
โรคสมาธิสั้น อาการ
โรคสมาธิสั้น หรือ attention-deficithyperactivitydisorder (ADHD) เรียกได้ว่าเป็นภาวะบกพร่องในการทำงานของสมอง ที่จะสามารถสังเกตได้จากพฤติกรรมที่แสดงออก 2 รูปแบบ ได้แก่
ขาดสมาธิที่จดจ่อ (Inattention)
เพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้น โน้ตจะยกตัวอย่างดังนี้ค่ะ
- ไม่ตั้งใจฟัง หรือขาดความสนใจกับคู่สนทนาหรือสิ่งที่คู่สนทนาพูดด้วย หรืออาจจะฟังเป็นช่วง ๆ แต่ก็ไม่สามารถจับใจความที่คู่สนทนาพูด
- มักไม่ชอบทำอะไรตามขั้นตอน หรือต้องมีลำดับขั้นแป๊ะ ๆ แต่มักจะทำแบบรวบรัด
- ไม่ชอบจดจ่อ หรืออยู่นิ่ง ๆ กับกิจกรรมใดกิจกรรมหนึ่งนาน ๆ
- ไม่ชอบการเรียนรู้ที่ต้องใช้เวลานาน ๆ เช่น การอ่านนิทานยาว ๆ อ่านหนังสือเรื่องยาว หรือการนั่งปั้นแป้งโดว์อยู่กับที่นาน ๆ
- ไม่สนใจในรายละเอียด ซึ่งรายละเอียดจะเป็นส่วนประกอบสำคัญที่จะทำให้เร่ืองนั้น ๆ สำเร็จ จึงทำให้เกิดความผิดพลาดแบบซ้ำ ๆ
- มักลืมอุปกรณ์เครื่องใช้หรือของใช้ที่จำเป็น เช่น ลืมดินสอ ยางลบ หรือหนังสือ เมื่อไปถึงโรงเรียนแล้ว
- บริหารเวลาไม่เป็น ทำให้เรียงลำดับความสำคัญก่อนและหลังไม่ได้
- พยายามเลี่ยงและไม่ชอบงานที่ต้องใช้เวลาทำนาน ๆ เช่น การบ้านหรือการเขียนรายงาน
- มักไม่ชอบที่จะอยู่ในกฎระเบียบหรือคำสั่ง เพราะจะรู้สึกอึดอัด เหมือนถูกตีกรอบ
อาการที่ไม่อยู่นิ่ง (Hyperactivity) และมีอาการหุนหันพลันแล่น (Impulsivity)
- เด็กมัพูดไม่หยุด เห็นอะไรก็เอามาพูด เอามาเล่าได้ทุกเรื่อง
- ไม่สามารถนั่งนิ่ง ๆ หรืออยู่กับที่นานๆ ได้ โดยเฉพาะเมื่อต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบ เขาจะรู้สึกเบื่อ
- มักเคลื่อนไหวเร็ว ตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา เช่น วิ่งบ้าง เดินบ้าง
- ไม่ชอบการรอคอย เมื่อไหร่ที่ต้องให้รอ จะรู้สึกขัดใจและอึดอัด บางรายอาจมีอาการหงุดหงิด และอารมณ์เสีย
- มักจะลุกออกจากที่นั่งบ่อย ๆ เช่น ออกนอกห้องเรียน หรือเดินเล่นในครัว หรือไม่ก็ออกไปวิ่งเล่นนอกบ้าน เป็นต้น
- กระสับกระส่าย จนสังเกตได้ว่ามีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมต่อสถานการณ์ ซึ่งคุณพ่อคุณแม่จะสังเกตเห็นได้ชัด
- ไม่สามารถทำงานอดิเรกหรือทำกิจกรรมแบบเงียบ ๆ คนเดียวได้ จะรู้สึกอึดอัด หรือกระสับกระส่าย
- พูดแทรกหรือมีพฤติกรรมที่รบกวนผู้อื่นในขณะที่กำลังทำกิจกรรมอยู่
อาการสมาธิสั้น รักษาอย่างไร?
หากคุณพ่อคุณแม่พาลูกไปปรึกษาคุณหมอแล้ว พบว่าลูกมีอาการของโรคสมาธิสั้น คุณหมอก็จะมีคำแนะนำที่คุณพ่อคุณแม่ควรปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ดังนี้ค่ะ
จัดตารางกิจกรรมประจำวัน
จัดบริเวณบ้านหรือจัดห้องให้สงบ
แบ่งงานให้ลูกทำทีละน้อย
การสั่งงานลูก ควรดูจังหวะที่เหมาะสม
ชื่นชมลูก เมื่อลูกทำงานได้สำเร็จ
หากิจกรรมเบี่ยงเบนความสนใจเมื่อเห็นว่าลูกเริ่มอยู่ไม่นิ่ง
เมื่อลูกเริ่มจะมีอาการอยู่ไม่นิ่ง ให้คุณพ่อคุณแม่เบี่ยงเบนความสนใจด้วยการหากิจกรรมอื่นทำแทนใช้พลังการอยู่ไม่นิ่งของลูกให้เป็นประโยชน์
เป็นต้นแบบที่ดีให้ลูกดู
พูดคุยกับครูอยู่เสมอ
แต่ไม่ว่าลูกจะเป็นเด็กที่ซนปกติหรือจะเป็นโรคสมาธิสั้นก็ตาม สิ่งที่ลูกต้องการคือ “การมีคุณพ่อคุณแม่ที่เข้าใจ ให้กำลังใจ และคอยอยู่เคียงข้างเขาไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์” สิ่งนี้จะทำให้เค้าเติบโตมาเป็นเด็กดีและมีคุณภาพค่ะ