Site icon simplymommynote

ช็อกโกแลต ให้ลูกทานเท่าไหร่ถึงพอดี ไม่อ้วน

ช็อกโกแลต ให้ลูกทานเท่าไหร่ถึงพอดี ไม่อ้วน

ใครว่าช็อกโกแลตเป็นเพียงขนมหวาน แต่ขนมหวานประเภทนี้มีดีกว่าที่เราคิด และคุณแม่ท่านไหนที่กังวลว่าลูกน้อยสามารถทานช็อคโกแลตได้หรือไม่ ช่วงวัยไหนจึงจะเหมาะสม เรามาหาคำตอบไปพร้อม ๆ กัน พร้อมเผยประโยชน์ที่เราคาดไม่ถึงว่าเจ้าช็อกโกแลต มีดีมากกว่าเป็นเพียงขนมหวาน

ช็อกโกแลต ทำจากอะไร?

ช็อกโกแลต (chocolate) เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้มาจากเมล็ดพืชชนิดหนึ่งที่เรียกว่า คาเคาบีน (Cocoa Bean) หรือที่เรารู้จักกันคือเจ้าเมล็ดโกโก้นั่นเอง ซึ่งนิยมปลูกในทวีปแอฟริกาและทางตอนใต้ของทวีปอเมริกา แต่ประเทศที่ขึ้นเรื่องของช็อคโกแลตที่สุดคือ ประเทศเบลเยี่ยม เพราะขึ้นชื่อว่ามีกรรมวิธีในการผลิตและรสชาติที่ดีเยี่ยมที่สุด แต่กว่าจะกลายมาเป็นช็อกโกแลตให้เรารับประทานนั้นต้องผ่านกรรมวิธีต่าง ๆ หลายขั้นตอนกว่าจะกลายมาเป็นของหวานรสชาติแสนอร่อยให้เรารับประทาน นอกจากนี้ช็อกโกแลตยังมีหลายประเภทด้วยนะคะ ยกตัวอย่างเช่น

ดาร์กช็อคโกแลต (Dark Chocolate)

ดาร์กช็อกโกแลต หรือช็อกโกแลตดำ มีส่วนผสมของโกโก้ตั้งแต่ 75% ขึ้นไป รสชาติหวานน้อยติดขม เด็กๆสามารถทานได้

ไวท์ช็อกโกแลต (White Chocolate)

หรือ ช็อกโกแลตขาว ไม่มีส่วนผสมของโกโก้ แต่ใช้โกโก้บัตเตอร์ รสชาติหวาน หอมนม มีกลิ่นวานิลลาปน

ช็อกโกแลตนม (Milk Chocolate)

ผสมส่วนผสมของเมล็ดโกโก้อย่างน้อย 25% รสชาติหวาน

ช็อกโกแลต ประโยชน์ และ โทษ?

ขึ้นชื่อว่าของอร่อยย่อมมีทั้งประโยชน์และโทษปนกันไป มาเช็คเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับเจ้าช็อกโกแลตกันดีกว่าว่าเจ้าของอร่อยนี้ให้ประโยชน์และให้โทษกับเราอย่างไรบ้าง

ประโยชน์ของช็อกโกแลต

ป้องกันการเกิดฝันผุ

เนื่องจากมีสารที่เรียกว่า กรดแทนนิน มีคุณสมบัติยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุให้เกิดฟันผุ

ช่วยให้อารมณ์ดี

รู้หรือไม่ว่าการทานช็อกโกแลตช่วยให้เราอารมณ์ดี เพราะมีสารช่วยกระตุ้นระบบประสาทรู้สึกผ่อนคลาย ให้สมองหลั่งสารที่ชื่อเอ็นโดฟิน สารตัวนี้ทำให้เราอารมณ์ดี พอกินแล้วเราจึงรู้สึกผ่อนคลาย

ปกป้องผิวจากแสงแดด

มีสารฟลาโวนอยด์ช่วยให้ผิวพรรณดี และยังปกป้องแสงแดดที่มีส่วนทำร้ายเซลล์ผิวหนัง

ช่วยให้การทำงานของหัวใจดีขึ้น

ในช็อกโกแลตยังมีสารสำคัญที่ชื่อสารโพลีฟีนอล สารตัวนี้ดีต่อการทำงานของหัวใจและยังช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้ทำงานดีขึ้น

ลดการเกิดไขมันอุดตันในเส้นเลือด

ช็อกโกแลตมีสารต้านอนุมูลอิสระ และยังช่วยเพิ่มปริมาณคลอเรสเตอรอลชนิดที่ดี ลดระดับคลอเรสเตอรอลชนิดไม่ดี จึงช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดไขมันอุดตันในเส้นเลือด

เป็นของขวัญแทนใจในโอกาสพิเศษ

แน่นอนว่าหลายคนมักเลือกช็อกโกแลตเป็นของขวัญมอบให้คนสำคัญในโอกาสพิเศษ แทนความรู้สึกดี ๆ ต่อกัน

โทษของช็อกโกแลต?

เพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด

เนื่องด้วยรสชาติที่หวานของช็อกโกแลตหากรับประทานมาก ๆ จะเพิ่มความเสี่ยงให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูง และเป็นสาเหตุให้เกิดโรคเบาหวานตามมา

เสี่ยงต่อการเกิดโรคอ้วน

นอกจากความหวานของช็อกโกแลตแล้ว ในช็อกโกแลตบางชนิดยังมีส่วนผสมของไขมันต่าง ๆ อีกด้วย เมื่อรับประทานมากจึงเสี่ยงต่อการเกิดโรคอ้วนได้

เกิดอาการแพ้

ในบางรายที่แพ้ช็อกโกแลต อาจทำให้มีอาการกระสับกระส่าย, นอนไม่หลับ, ปัสสาวะบ่อย หรือคลื่นไส้ ได้

อายุเท่าไหร่ เริ่มทานช็อกโกแลตได้?

ช็อกโกแลตเป็นของหวานที่เด็กๆหลายคนชอบกิน แม่ๆ ผู้ปกครองหลายท่านแอบกังวลว่าว่าลูกจะทานได้หรือไม่ และช่วงวัยไหนจึงจะเหมาะสมในการรับประทาน จริง ๆ แล้วเด็ก ๆ ที่มีอายุต่ำกว่า 2 ขวบไม่ควรทานขนมทุกชนิด หากเด็ก ๆ อายุมากกว่า 2 ขวบก็สามารถทานได้ ดังนั้นเจ้าช็อกโกแลตก็เช่นกัน อายุที่เหมาะในการทานจึงอยู่ในช่วง 2 ขวบขึ้นไป

ข้อแนะนำ ในการทานช็อกโกแลต

อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่าช็อกโกแลตเป็นของหวานที่ให้ทั้งประโยชน์และโทษ เพราะนอกจากความอร่อยแล้วเจ้าช็อกโกแลตยังมีสาระสำคัญต่าง ๆ ที่มีผลดีต่อร่างกายไม่น้อย อย่างไรก็ตามการรับประทานช็อกโกแลตก็ยังมีผลเสียต่อร่างกายเช่นเดียวกัน ดังนั้นควรรับประทานให้ขนาดและปริมาณที่พอดีและออกกำลังกายร่วมด้วย เด็กน้อยควรทานอย่างน้อยไม่เกินวันละ 2 ชิ้น และไม่ควรทานร่วมกันของหวานอื่นๆเพราะจะทำให้เด็ก ๆ กินข้าวได้น้อยลง และข้อแนะนำในเด็กๆที่มักมีปัญหาเรื่องฟันผุแม้ว่าช็อกโกแลตจะช่วยป้องกันแบคทีเรียให้เกิดฟันผุ แต่ขึ้นชื่อว่าของหวานก็ย่อมมีผลต่อฟันแน่นอน ดังนั้นควรแปรงฟันทุกครั้งหลังรับประทานช็อกโกแลต

ใครจะบอกว่าช็อกโกแลตเป็นเพียงของหวานล่อตาล่อใจเด็กๆ หรือเป็นของกินไม่มีประโยชน์คงไม่ใช่อีกต่อไป เพราะเจ้าช็อกโกแลตนั้นมีดีกว่าที่หลายคนคิด อย่างเราได้กล่าวไปข้างต้นช็อกโกแลตให้ประโยชน์หลายอย่างที่มากกว่าความอร่อย และเป็นของหวานราคาแพง ที่สำคัญยังช่วยให้เราอารมณ์ดีรู้สึกผ่อนคลายได้ดี และยังเป็นของขวัญมอบให้คนพิเศษในโอกาสดีๆอีกด้วย แม้ว่าจะมีข้อดีมากมายแต่การรับประทานในปริมาณที่เกินพอดีก็ย่อมส่งผลเสียต่อร่างกายเช่นเดียวกัน ดังนั้นควรรับประทานแต่พอดีและออกกำลังกายด้วย

Exit mobile version