Site icon simplymommynote

การขู่ลูก รู้ไหมว่าส่งผลต่อจินตนาการและพัฒนาการลูก

เท้าความจากตอนแรกที่โน้ตเคยเขียนเอาไว้ในบทความ “ผลเสียจากการขู่ลูก”

พอดีเมื่อเช้าได้มีโอกาสดูรายการของสำนักข่าวไทยพีบีเอส โดยมี รศ.นพ.สุริยเดว ทรีปาตี กุมารแพทย์เชี่ยวชาญเด็กและวัยรุ่น มาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการเลี้ยงลูก ท่านให้แนวทางในการเลี้ยงลูกไว้หลายหัวข้อ เห็นว่ามันน่าจะเป็นประโยชน์ต่อคุณพ่อคุณแม่หลายๆ ท่าน จึงขออนุญาตนำมาลงใน BD คุณแม่บ้านบ้าน เผื่อจะได้เอาไว้อ่านกันค่ะ

“การขู่ลูก”

เหมือนอย่างในอดีตที่ผู้ใหญ่หลายๆ ท่านมักจะชอบใช้ขู่ลูกเวลาลูกร้องไห้ไม่ยอมเงียบ

“ร้องมากๆ เดี๋ยวให้ตุ๊กแกมากินตับเลย”

เมื่อเด็กได้ฟังอย่างนี้ปุ๊บ เค้าก็จำ ความจริงไม่ใช่แค่จำน่ะสิคะ เด็กจะมีกาคิดต่อยอดและจินตนาการต่อไปเรื่อยๆ เช่น

เมื่อถึงเวลาที่ลูกต้องฝึกนั่งชักโครกแล้ว แต่เค้าไม่กล้านั่ง คุณพ่อคุณแม่ลองเดาสิคะว่าเป็นเพราะอะไร?

…เพราะเด็กเค้าจินตนาการต่อค่ะว่า กลัวตุ๊กแกจะขึ้นมาจากชักโครก

ทำให้ลูกกลัวและไม่พร้อมที่จะฝึกนั่งชักโครกซักที แต่คุณพ่อคุณแม่อาจลืมไปแล้วก็ได้ว่า เคยขู่ลูกด้วยตุ๊กแกมาก่อน ทำให้ดุลูกและไม่เข้าใจลูก

อย่างนี้เค้าเรียก “ลูกมีจินตนาการทางด้านลบ”

วิธีแก้ไขหรือปรับพฤติกรรม

1. เลิกขู่ลูก

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของตุ๊กแก หรือกินข้าวช้าเดี๋ยวให้ตำรวจจับ หรือร้องงอแงมากๆ เดี๋ยวให้คุณหมอจับฉีดยา เป็นต้น

2. อ่านนิทาน

หรือเล่าเรื่องที่เสริมจินตนาการทางด้านบวกแทน

เห็นมั้ยล่ะคะ การขู่ลูกในวันนี้มีผลเสียมากกว่าที่คุณพ่อคุณแม่คิดจริงถ้าด้านจินตนาการ เด็กก็จะกลายเป็นคนที่มีจินตนาการด้านลบไป ส่วนด้านพัฒนาการก็แทนที่จะฝึกนั่งชักโครก เลิกผ้าอ้อมสำเร็จรูปก็ทำได้ช้ากว่าที่ควรจะเป็น

…ยังไม่สายนะคะ หากวันนี้คุณพ่อคุณแม่จะปรับวิธีการเลี้ยงลูกใหม่ เพื่ออนาคตที่สดใสของลูกซึ่งเป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่อยากเห็น

Exit mobile version