Site icon simplymommynote

ไฮเปอร์กับสมาธิสั้นแยกได้อย่างไร

ไฮเปอร์กับสมาธิสั้นแยกได้อย่างไร

โบราณว่า “เด็กซนคือ เด็กฉลาด” แต่ถ้าเด็กซนเกินไป จนอยู่ไม่นิ่ง แล้วที่ลูกอยู่ไม่นิ่งนี้มันคือ สมาธิสั้น ไฮเปอร์ หรือแค่ลูกซนปกติทั่วไป วันนี้ไปดูกันค่ะว่ามีความต่างกันอย่างไร แยกได้จากอะไรบ้าง

รู้จักกับโรคสมาธิสั้น

โรคสมาธิสั้น (ADHD – Attention Deficit Hyperactivity Disorder) คือ ภาวะที่ผิดปกติทางจิตเวชทำให้ลูกมีสมาธิสั้นกว่าปกติ ไม่สามารถควบคุมการเคลื่อนไหวของตัวเองได้ จึงแสดงออกในทางซุกซน วอกแวกง่าย ไม่ค่อยอยู่นิ่ง เก็บรายละเอียดไม่ค่อยได้ มักจะพบมากในเด็กที่มีช่วงอายุระหว่าง 3-7 ปี แต่บางรายหากเป็นไม่มากก็จะมักจะแสดงอาการออกมาเมื่ออายุขึ้น 7 ปีไปแล้ว

อาการของโรคสมาธิสั้น

อาจเป็น A หรือ B

อาการขาดสมาธิ

คือ เด็กต้องมีอย่างน้อย 6 ข้อหรือมากกว่าจากด้านล่างนี้นะคะ และเป็นระยะเวลาต่อเนื่องติดต่อกันนาน 6 เดือน โดยที่ระดับของพัฒนาการก็ไม่ได้เติบโตไปตามวัย

อาการอยู่ไม่นิ่ง (Hyperactivity)

คือ อาการของเด็กที่หุนหันพลันแล่น และเป็นอย่างนี้ติดต่อกันนาน 6 เดือน โดยที่ระดับของพัฒนาการไม่ได้เป็นไปตามวัย

อาการเหล่านี้พบได้ก่อนอายุ 7 ขวบ

พบความบกพร่องเหล่านี้ได้ในสถานที่ต่าง ๆ อย่างน้อย 2 แห่ง คือ บ้านและโรงเรียน อาจต้องมีความรุนแรงของอาการจนกระทั่งเป็นอุปสรรคส่งผลต่อการเรียน การเข้าสังคม และการทำงานอย่างเห็นได้ชัด

ควรพบแพทย์เมื่อไหร่

โรคไฮเปอร์ต่างกับโรคสมาธิสั้นอย่างไร

เด็กที่เป็นไฮเปอร์ไม่จำเป็นต้องเป็นโรคสมาธิสั้นเสมอไป เนื่องจากไฮเปอร์คือ อาการที่อยู่ไม่นิ่ง เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น โรคสมาธิสั้น ซึ่งเป็นเพียงสาเหตุหนึ่งเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีเด็กที่มีไอคิวสูง เด็กที่มักมีความวิตกกังวล เด็กที่มีพัฒนาการทางประสาทล่าช้า ฯลฯ เพราะเด็กที่เป็นโรคสมาธิสั้นจะไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด สามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ หากคุณพ่อหรือคุณแม่เป็น ลูกมีโอกาสเป็นได้ถึง 50%

การป้องกันลูกไม่ให้เป็นโรคสมาธิสั้น

โรคนี้ไม่ใช่โรคติดต่อที่น่ารังเกียจ แต่หากลูกเป็นโรคนี้แล้ว การที่ได้รับการตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาอย่างถูกต้อง ก็สามารถหายได้ค่ะ เพื่อให้ลูกได้กลับมาใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในแบบที่เขาไม่เคยเป็นมาก่อน

อ้างอิง โรงพยาบาลกรุงเทพ

Exit mobile version