Site icon simplymommynote

จำเป็นหรือไม่ที่จะส่งลูกเข้าเรียนเตรียมอนุบาล?

จำเป็นหรือไม่ที่จะส่งลูกเข้าเรียนเตรียมอนุบาล?

“แป้ปเดียวลูกโตแล้ว” …แม่ก็ใจหายแล้วเหมือนกัน 555 แป้ปๆ ลูกก็ต้องไปเรียนหนังสือแล้ว ถึงเวลาที่พ่อแม่ต้องหาข้อมูลโรงเรียนต่างๆ ให้ลูกแล้วสิ แต่…มันมีคำถามว่า

“จะให้ลูกเข้าเรียนเตรียมอนุบาลดีไหม? กี่ขวบดี? จะมีข้อดีข้อเสียอะไรบ้าง? หรือลูกยังเล็กเกินไปไหม?”

          วันนี้โน้ตมีข้อมูลทั้งข้อดีและข้อเสียมาฝาก เพื่อเป็นการประกอบการตัดสินใจมาฝากคุณพ่อคุณแม่ค่ะ

 

เหตุผลที่ส่งลูกเข้าเรียนเตรียมอนุบาล

ต้องบอกว่าแต่ละครอบครัวมีความจำเป็นต่างกัน มีผลทำให้การตัดสินใจของแต่ละครอบครัวแตกต่างกัน ดังนี้ค่ะ

พ่อแม่ทำงานนอกบ้านทั้งคู่ ไม่มีใครช่วยเลี้ยง

อย่างที่เรารู้กันดีว่าครอบครัวคนไทยในปัจจุบันโดยเฉพาะสังคมเมือง จะมีลักษณะเป็นครอบครัวเดี่ยวมากขึ้น และค่าใช้จ่ายต่อหัวของเด็กคนหนึ่งช่างแพงเหลือเกิน เหล่านี้จึงทำให้คุณพ่อคุณแม่ต้องช่วยกันทำมาหากิน ผนวกไม่มีใครมาช่วยเลี้ยง การส่งลูกเข้าเรียนเตรียมอนุบาลจึงดูเป็นคำตอบที่ดีที่สุด

ได้รับสิทธิการได้เข้าเรียนในชั้นอนุบาลที่โรงเรียนเดิม

ก่อนที่คุณพ่อคุณแม่จะให้ลูกเข้าเรียนที่ไหนนั้น เชื่อว่าส่วนใหญ่ก็จะหาข้อมูลของโรงเรียนนั้นๆ มาก่อน ยิ่งในปัจจุบันเรื่องของ “สถานศึกษา” เป็นเรื่องที่มีการแข่งขันกันสูงมาก ดังนั้น ถ้าคุณพ่อคุณแม่อยากให้ลูกได้เรียนในระดับชั้นอนุบาลที่ไหน ส่วนใหญ่ก็มักจะให้ลูกได้เข้าเรียนที่โรงเรียนนั้นๆ ก่อน เพื่อที่จะได้รับสิทธิในการเข้าเรียนในระดับชั้นที่สูงขึ้นไป

ฝึกลูกเรียนรู้ในการปรับตัวด้านต่างๆ

ข้อนี้เป็นอะไรที่ทุกครอบครัวให้ความสำคัญ อยากให้ลูกมีพื้นฐานที่ดีในหลายๆ ด้าน อาทิ การช่วยเหลือตัวเองในเรื่องการใช้ชีวิตประจำวัน การเข้าสังคม ระเบียบวินัย ความรับผิดชอบ ฯลฯ

 

ข้อดีและข้อเสียของการให้ลูกเข้าเรียนเตรียมอนุบาล

ข้อมูลที่โน้ตจะแชร์ดังต่อไปนี้ อยากให้คุณพ่อคุณแม่เก็บเอาไว้เพื่อเป็นข้อมูลในการประกอบการตัดสินใจนะคะ

ข้อดี

ส่งเสริมพัฒนาการที่ดีทั้งด้านสังคมและอารมณ์

เนื่องจากโรงเรียนมีพื้นที่กว้างขวางและมีสื่อการเรียนการสอนที่เหมาะสม ทำให้เด็กๆ ได้มีการเรียนรู้ได้อย่างเหมาะสมเช่นกัน โดยเฉพาะในเรื่องการปรับตัวเข้ากับสังคมและมีพัฒนาการทางด้านอารมณ์ที่ดี

ปูพื้นฐานความรู้ทางวิชาการในบางเรื่อง

อาทิ งานศิลปะ (ฝึกกล้ามเนื้อมือ) การร้องเพลง การนับเลข ตัวอักษรทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ การเล่านิทาน และกิจกรรมต่างๆ ทั้งในห้องและกลางแจ้ง เป็นต้น

ฝึกทักษะการใช้ชีวิตประจำวัน

อาทิ ความรับผิดชอบต่อตนเอง การมีระเบียบวินัย การเข้าแถว แปรงฟัน ล้างมือ หรือแม้กระทั่งการเก็บที่นอนของตนเอง สิ่งเหล่านี้จะทำให้เด็กดูโตขึ้น (คุณพ่อคุณแม่จะดีใจมากค่ะ เมื่อเห็นลูกทำได้)

ส่งเสริมพัฒนาการที่ดีทางร่างกาย

เพราะเด็กๆ จะได้ออกกำลังกายไม่ว่าจากการเรียนวิชาพละศึกษาหรือการที่เด็กๆ ได้เล่นที่สนามเด็กเล่น ซึ่งจะทำให้กล้ามเนื้อในส่วนต่างๆ ของเด็กถูกใช้งาน เพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อได้ดี

ข้อเสีย

ขาดพื้นฐานความรักความอบอุ่นจากครอบครั

ในหนึ่งห้องจะมีครูและพี่เลี้ยง รวมกันแล้วอย่างมากไม่เกิน 3 คน (ของที่โรงเรียนน้องมินมี 2 คน ครู 1 ท่าน พี่เลี้ยง 1 ท่าน) ดังนั้น ทำให้การดูแลจะถูกกระจายให้เด็กทุกๆ คนในห้อง ทำให้ไม่สามารถจะดูแลได้แบบตัวต่อตัว ซึ่งต่างจากเวลาที่เด็กอยู่ที่บ้าน เค้าจะได้รับทั้งความรักและความใส่ใจเต็มที่ ซึ่งเป็นพื้นฐานที่สำคัญของเด็กที่ควรได้รับในวัยนี้

ลูกยังเล็กเกินไป ไม่พร้อมที่จะเรียนรู้

เด็กแต่ละคนต่างกัน แม้กระทั่งในเรื่องของพัฒนาการทางด้านการเรียนรู้ก็ต่างกัน บางคนเรียนรู้ได้เร็ว ในขณะที่เด็กบางคนยังเล็กเกินไปที่จะเอาเรื่องวินัย เรื่องการปรับตัว เรื่องวิชาการไปให้เค้าในวันที่เค้ายังไม่พร้อม เหล่านี้จะทำให้เด็กเกิดอาการไม่อยากไปโรงเรียน เพราะไม่สนุกเหมือนอยู่ที่บ้าน

ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง

โดยเฉพาะถ้าเป็นโรงเรียนเอกชน เพราะครูจะมีความรู้ มีทักษะ และมีแนวทางการสอนที่มีแบบแผน

ป่วยเป็นประจำ

หลายๆ ท่านรู้ดีว่าภูมิคุ้มกันเด็กนั้นยังมีน้อย ยังพัฒนาไม่เต็มที่ จะคุมก็ไม่ได้ เพราะเราไม่ได้อยู่กับลูกตลอดเวลา การทำประกันเด็กช่วยได้เยอะค่ะ^^ ครอบครัวโน้ตได้ยินมาว่าทำถึง 2 กรมธรรม์ แต่ส่วนนี้คุณพ่อคุณแม่ลองพิจารณาดูนะคะ เพราะแต่ละบริษัทก็มีเงื่อนไขต่างกัน

การส่งลูกเข้าเรียนเตรียมอนุบาลจะจำเป็นหรือไม่? อันนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับคุณพ่อคุณแม่ค่ะว่า เราติดปัญหาในเรื่องไหนบ้าง หรือเรื่องไหนที่คุณพ่อคุณแม่ให้ความสำคัญมาเป็นอันดับแรก เพราะพื้นฐานของลูกเป็นสิ่งสำคัญ แนวทางการเลี้ยงของแต่ละครอบครัวก็สำคัญไม่แพ้กัน พิจารณากันดีๆ นะคะ

Exit mobile version