Site icon simplymommynote

10 หน้ากากอนามัย ยี่ห้อไหนดี 2024 l Simply Mommy Note

10 อันดับ หน้ากากอนามัย ยี่ห้อไหนดี ล่าสุด ปี 2022-01

mask

ขณะนี้ในช่วงเดือนพฤษภาคมกำลังเป็นช่วงที่โควิด-19 กำลังระบาดเป็นรอบที่ 3 การรู้จักป้องกันตัวเองไม่ให้เชื้อเข้าสู่ร่างกายเป็นเรื่องสำคัญมากค่ะ โดยเฉพาะในรอบที่ 3 นี้หลายประเทศต้องเจอกับตัวไวรัสโคโรน่าที่มีการกลายพันธุ์ ซึ่งหนึ่งในอุปกรณ์ที่ป้องกันเราได้นั่นก็คือ หน้ากากอนามัยนั่นเอง ว่าแต่จะเลือกใช้ยี่ห้อไหนอย่างไร ไปติดตามกันเลยค่ะ

สารบัญ

Toggle

10 หน้ากากอนามัย ยี่ห้อไหนดี 2023

หน้ากากอนามัย Iris Oyama


หน้ากากอนามัยแบบวีคัท ไซส์ M ที่กระชับกับใบหน้าได้พอดี รุ่นนี้สามารถป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ละอองเกสรดอกไม้ เชื้อไวรัสและเชื้อแบคทีเรียได้ มาพร้อมแผ่นกรอง 3 ชั้น สายคล้องหูนุ่ม ไม่เจ็บหรือระคายเคืองหู

หน้ากากอนามัย Unicharm 3D Mask


หน้ากากอนามัยรุ่นนี้มีความพิเศษตรงที่ถูกออกแบบมาเพื่อป้องกัน PM2.5 และเชื้อไวรัส Covid-19 โดยเฉพาะ เนื่องจากมีแผ่นกรองประสิทธิภาพเยี่ยมมาให้ถึง 3 ชั้น ชั้นในสุดจะช่วยป้องกันความชื้น ระบายอากาศได้ดี และที่พลาดไม่ได้ด้วยรูปทรง 3 มิติยังช่วยให้สวมใส่สบาย กระชับพอดีกับใบหน้า สายคล้องหูมีความนุ่ม ยืดหยุ่นไม่เจ็บหูแม้ต้องสวมใส่ทั้งวัน

หน้ากากอนามัย 3M – KF94


หน้ากากอนามัยประสิทธิภาพเยี่ยม ขวัญใจของใครหลาย ๆ คน เป็นหน้ากากที่ติดตั้งชั้นกรองเส้นใยไฟฟ้าสถิตย์ ส่งผลให้มีประสิทธิภาพในการป้องกันรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นฝุ่นละอองขนาดเล็กอย่าง PM2.5 ละอองเกสร หรือควันจากท่อไอเสียต่าง ๆ รุ่น KF94 นี้ผ่านการรับรองมาตรฐานจากประเทศเกาหลีใต้

หน้ากากอนามัย Welcare


เป็นหน้ากากอนามัยที่มีตัวกรอง 3 ชั้น ผ่านการรับรองคุณภาพจาก Nelson Labatories ห้องจากประเทศสหรัฐอเมริกา สามารถป้องกันฝุ่นและละอองเกสรอื่น ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะเชื้อแบคทีเรียอนุภาคเฉลี่ย 3 ไมครอน ที่สำคัญมาพร้อมกับสายคล้องหูแบบ Soft Spandex ที่ให้ความนุ่มสบายในทุกการสัมผัส ไม่รัดหูให้เจ็บแม้ต้องสวมใส่ตลอดทั้งวัน มีให้เลือกทั้งหมด 4 สี ราคาเป็นมิตรกับกระเป๋า

หน้ากากอนามัย LONGMED Klean Mask


หน้ากากอนามัยที่มีแผ่นกรองถึง 3 ชั้น ได้รับการรับรองจากสถาบันเนลสัน สหรัฐอเมริกา การันตีว่าสามารถป้องกันเชื้อโรค และสารคัดหลั่งในทุกรูปแบบ สวมใส่สบายไม่อับชื้น ถือเป็นหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ที่ราคาสบายกระเป๋า มีหลายสีให้เลือก ได้แก่ สีเขียว สีฟ้า สีขาว สีชมพู และสีดำ มีทั้งขนาดของเด็กและผู้ใหญ่ให้เลือกอีกด้วยค่ะ

หน้ากากอนามัยผ้า GQMax™ Mask


แมส GQ หน้ากากอนามัยแบบผ้าที่ถือว่ามีประสิทธิภาพและได้รับความนิยมอย่างมากในขณะนี้  เป็นหน้ากากอนามัยผ้าสะท้อนน้ำ และด้วยแผ่นกรองถึง 7 ชั้น จึงทำให้สามารถป้องกันฝุ่น PM2.5 และฝุ่นอนุภาคขนาดเล็กอย่าง 0.0075 ไมครอนได้อีกด้วย ตัวผ้าด้านนอกสะท้องน้ำ ส่วนด้านในเป็นผ้าแบบ Coolmax ที่ทั้งแห้งไวและระบายอากาศได้ดี จึงทำให้ไม่รู้สึกอึดอัด สามารถซักทำความสะอาดได้มากถึง 30 ครั้ง คุ้มค่า คุ้มราคามาก ๆ

หน้ากากอนามัย Yamada


เป็นหน้ากากอนามัยที่มีปริมาณเยอะ ราคาย่อมเยา หน้ากาก YAMADA เป็นหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ นสามารถป้องกันฝุ่นละอองและเกสรดอกไม้ได้ มีน้ำหนักเบา หายใจได้อย่างสะดวกสบายไม่ร้อนอึดอัด สายคล้องหูทำจาก Latex Free ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง ไม่เจ็บหู

หน้ากากอนามัย PITTA MASK


หน้ากากอนามัยที่สามารถป้องกันฝุ่นละออง และเกสรดอกไม้ได้ วัสดุทำจาก Polyurethane ที่มีความยืดหยุ่นสูง สวมใส่แล้วกระชับกับใบหน้า เบาสบาย หายใจสะดวกไม่อึดอัด สามารถป้องกันฝุ่นละอองได้มากถึง 99% ที่สำคัญสามารถพับเก็บได้แบบไม่เสียทรง สามารถซักทำความสะอาด และนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ควรซักด้วยมือเท่านั้นนะคะ

หน้ากากอนามัย Double​ A​ Care​ รุ่น 3D V-SHAPE SOFT FIT


หน้ากากอนามัยรุ่นนี้เป็นรุ่น V-SHAPE กระชับเข้ากับรูปหน้าได้ดี เป็นหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ที่ให้ความนุ่มสบายทุกณะที่สวมใส่ ไม่รัดหู ไม่เจ็บหู กรองไวรัสได้ถึง VFE 99.9%, กรองแบคทีเรีย BFE 99.9% และกรองฝุ่นละอองขนาดเล็ก 0.1 ไมครอน ได้ถึง PFE 99.8% ตัวกรอง 3 ชั้น ระบายอากาศได้ดี ไม่อึดอัดค่ะ

หน้ากากอนามัย Mind mask


รุ่นนี้เป็นหน้ากากอนามัยแบบ KF94 ผ่านการรับรองตามาตรฐานของประเทศไทย ทำจากวัสดุใยสังเคราะห์ 4 ชั้น ใช้ระบบการผลิตที่ผ่านคลื่นความร้อนจากเครื่องอัลตร้าโซนิคย้ำจีบตะเข็บผ้าและยางยืดให้ติดกัน จึงไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวแม้ต้องสวมใส่ตลอดทั้งวัน ที่สำคัญ มีประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อโรค แบคทีเรีย ละอองน้ำ รวมถึง PM2.5 ได้ถึง 99% เนื้อผ้าระบายอากาศได้ดี หายใจสะดวก

หน้ากากอนามัย คืออะไร?

เราสามารถแยกหน้ากากอนามัยออกได้เป็น 7 ประเภทใหญ่ ๆ ดังนี้

หน้ากากแบบทั่วไป


หน้ากากชนิดนี้สามารถป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคที่มาในลักษณะไอ หรือจามได้ มักทำจากฝ้ายหรือใยสังเคราะห์ สวมใส่สบาย ไม่อึดอัด แต่หน้ากากชนิดนี้จะไม่สามารถกรองหรือดักจับฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กได้ ยกตัวอย่างฝุ่นละออง PM2.5 แบบนี้แนะนำให้ใช้หน้ากาก N95 จะดีที่สุดค่ะ เพราะสามารถกรองฝุ่นละอองที่มีอนุภาคเล็กได้

หน้ากากทางการแพทย์ (Medical Mask หรือ Surgical Mask)

เป็นหน้ากากอนามัยแบบ 3 ชั้น ผลิตจาก Polypropylene ซึ่งจะมีแผ่นผ้าซ้อนกัน 3 ชั้น ตัว Polypropylene เป็นพลาสติกที่มีความปลอดภัยต่อผู้สวมใส่ หน้ากากชนิดนี้มีประสิทธิภาพในการกรองเชื้อโรค แบคทีเรีย ที่มีขนาด 2.8µ ได้ดี หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ สามารถป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคได้สูงถึง 99% เลยทีเดียว นอกจากนี้ยังสามารถป้องกันฝุ่นที่มีขนาด 3µ ได้อีกด้วย (สามารถป้องกันฝุ่นได้ประมาณ 66.37%) หรือถ้าหากใส่ซ้อนกัน 2 อัน ก็จะสามารถป้องกันฝุ่นได้ถึง 89.75%

หน้ากากแบบคาร์บอน

จากข้อมูลของ พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้ระบุว่า หน้ากากคาร์บอนนั้นมีคุณสมบัติไม่ต่างจากหน้ากากอนามัยแบบทั่วไป คือ ก็ยังสามารถกรองเชื้อโรค กรองฝุ่นได้ เพียงแต่หน้ากากแบบคาร์บอนจะมีประสิทธิภาพในการดับกลิ่น และการดูซับความชื้นได้ดีกว่าหน้ากากแบบทั่วไป

หน้ากากแบบ N95

หน้ากากชนิดนี้สามารถกรองฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กมาก ๆ ได้ดีกว่าหน้ากากแบบอื่น ๆ ที่กล่าวมา แม้แต่ฝุ่นหรือเชื้อโรคที่มีอนุภาคเล็กเท่าแบคทีเรียและไวรัส ก็สามารถกรองได้โดยอยู่ที่ 95% ซึ่งรูปทรงของหน้ากากก็จะถูกออกแบบมาให้แนบสนิทกับใบหน้า ซึ่งอาจทำให้รู้สึกหายใจได้ลำบากเล็กน้อย แต่ก็สามารถกรอง PM2.5 ได้ดีมาก ๆ

หน้ากาก FFP1

มีประสิทธิภาพในการกรองคล้ายกับ N95 โดยสามารถกรองได้ถึง 94% สิ่งที่ทำให้หน้ากาก FFP1 ต่างจากหน้ากาก N95 คือ หน้ากาก FFP1 สามารถป้องกันสารเคมีได้ นอกจากนี้ยังมีหน้ากากแบบ FFP2 และ FFP3 ที่มีประสิทธิภาพในการกรองต่างกันออกไปอีกด้วยค่ะ แต่ที่นิยมใช้ในบ้านเราจะเป็นรุ่น FFP1 ค่ะ

หน้ากากฟองน้ำ

หน้ากากชนิดนี้ผลิตจาก Polyurethane Foam ซึ่งมีความหนาไม่ขาดง่าย สวมใส่สบาย หายใจได้สะดวกป้องกันฝุ่นละอองและเกสรดอกไม้ได้ แต่ป้องกันฝุ่นละออง PM2.5 และเชื้อไวรัสโควิด-19 ไม่ได้

หน้ากากผ้า

หน้ากากผ้าสามารถป้องกันเชื้อโรคได้ 54-59% นอกจากจะสามารถกรองฝุ่นได้แล้ว ในปัจจุบันเริ่มมีคุณสมบัติเพิ่มเติมในการกันน้ำจากด้านนอกได้อีกด้วย ซึ่งข้อดีคือ สามารถนำไปซักและกลับมาใช้ใหม่ได้จนครบ 5 วันโดยประมาณ ซึ่งผ้าที่เหมาะกับการทำหน้ากากผ้าได้แก่ ผ้ามัสลิน และผ้าสาลู ทั้งนี้ กรมอนามัยได้ออกมาระบุเพิ่มเติมว่า หน้ากากผ้าไม่เหมาะสำหรับบุคลากรทางการแพทย์เพราะไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้เลย แต่ประชาชานทั่วไปสามารถใช้ได้

ข้อควรรู้เกี่ยวกับหน้ากากอนามัย

หน้ากากอนามัยไม่สามารถป้องกันเชื้อโรคและกรองฝุ่นได้ 100%

การสวมหน้ากากอนามัยเป็นเพียงหนึ่งวิธีเท่านั้นที่จะช่วยป้องกันเราจากเชื้อโรค และจะป้องกันได้มากแค่ไหนขึ้นอยู่กับวัสดุที่นำมาทำด้วยค่ะ เพราะฉะนั้น ถ้าจะให้ดี ควรใช้วิธีการป้องกันอย่างอื่นร่วมด้วย อาทิ ใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างมือที่มีความเข้มข้นมากกว่า 70 – 75% หรือพกสเปรย์ฆ่าเชื้อ รวมถึงหมั่นล้างมือให้ถูกวิธีอยู่เสมอ

ไม่นำหน้ากากอนามัยมาใช้ซ้ำ

มีใครที่เคยนำหน้ากากอนามัยมาใช้ซ้ำไหมคะ สารภาพมาซะดี ๆ แบบนี้ไม่ดี ไม่เอานะคะ เพราะหน้ากากอนามัยที่ไม่ใช่แบบผ้า เขาผลิตมาเพื่อใช้แล้วทิ้งค่ะ ความหมายคือ ใช้ได้ครั้งเดียว เพราะหากใช้ซ้ำมีโอกาสเสี่ยงติดเชื้อโรคได้ค่ะ

หน้ากากที่มีวาล์วเพื่อระบายอากาศ

สามารถกันฝุ่นละอองได้ดี แต่ไม่สามารถป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ เนื่องจากช่องระบายอากาศที่สามารถทำให้เชื้อโรคได้มาได้ค่ะ

สวม Face Shield อย่างเดียวได้ไหม?

ว่ากันด้วยวัตถุประสงค์หลักของ Face Shield คือ ใช้สำหรับป้องกันฝุ่นละอองไม่ให้เข้าตาเท่านั้นค่ะ แต่ไม่สามารถป้องกันในส่วนของจมูกและปากได้ จะให้ดีแนะนำว่าควรสวมใส่หน้ากากอนามัยคู่กันไปด้วยจะดีที่สุดค่ะ

การทิ้งหน้ากากอนามัยใช้แล้วที่ถูกต้อง

อันตรายจากการสูดดมฝุ่น PM 2.5

ฝุ่น PM 2.5 เป็นฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็ก เล็กกว่าขนาดของเส้นผมเราถึง 5 เท่า ดังนั้น เมื่อเราสูดดมเอาฝุ่นละอองขนาดเล็กนี้เข้าสู่ร่างกายโดยเฉพาะในเด็กเล็กที่อายุไม่เกิน 5 ขวบ จะส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ และส่วนต่างๆ ของร่างกาย เพราะภูมิคุ้มกันของเด็กยังพัฒนาได้ไม่เต็มที่ ทำให้ฝุ่นละอองขนาดเล็กดังกล่าว เข้าไปได้ถึงปอดได้ตรง เร็ว และลึกกว่าร่างกายผู้ใหญ่ ผลกระทบในส่วนต่างๆ ของร่างกาย เริ่มกันด้วย…

อันตรายต่อจมูก

อวัยวะส่วนแรกที่จะได้รับผลกระทบจากการสูดดมเจ้าฝุ่น PM 2.5 และควันพิษเข้าไป เมื่อได้รับในปริมาณมากๆ จะมีอาการแสบจมูก น้ำมูกไหล หายใจลำบาก ไอ และเจ็บคอ

อันตรายต่อผิวหนัง

เพราะภูมิคุ้มกันของเด็กยังพัฒนาได้ไม่เต็มที่ ดังนั้น หากผิวหนังของเด็กๆ ได้สัมผัสกับฝุ่น PM 2.5 นี้เป็นจำนวนมากและเป็นเวลานาน อาจทำให้ผิวหนังมีผื่นแดงและคันได้

อันตรายต่อดวงตา

เกิดอาการตาแดง ระคายเคืองตา แสบตา ดวงตาไม่สามารถสู้แสงได้ ซึ่งในบางรายอาจส่งผลให้เกิดโรคตาได้ อาทิ ตาแดง ต้อลม ต้อเนื้อ และตากุ้งยิง เป็นต้น

อันตรายต่อสมอง

เพราะฝุ่น PM 2.5 เป็นฝุ่นละอองขนาดเล็กที่สามารถเข้าสู่ร่างกายได้ในส่วนลึก รวมถึงสมองด้วย หากร่างกายเด็กมีการสะสมของฝุ่น PM 2.5 ไว้ในปริมาณมากๆ จะส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการทางสติปัญญาและพัฒนาการด้านร่างกายที่ช้าลง มีปัญหาด้านการได้ยิน การพูด รวมถึงทำให้เกิดภาวะสมาธิสั้น (Attention Deficit) และภาวะออทิสซึ่ม (Autism) เพิ่มมากขึ้นถึง 68%

อันตรายต่อปอด

หากเด็กสูดดมเอาฝุ่น PM 2.5 บ่อยๆ ในปริมาณมากๆ ก็จะเกิดการสะสม และอาจทำให้เกิดภาวะถุงลมโป่งพอง โรคหลอดลมอักเสบ โรคหลอดลมปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคปอดอักเสบ โรคหอบหืด ไปจนถึงโรคมะเร็งระบบทางเดินหายใจ

อันตรายต่อหัวใจ

แบ่งได้เป็น  2 ระยะ

อันตรายต่อหัวใจ-ระยะสั้น

ฝุ่น PM 2.5 ที่เข้าสู่ร่างกายจะกระตุ้นให้ร่างกายเกิดการเข้าใจผิดว่า ก้อนไขมันที่สะสมอยู่ในร่างกายนั้นจะแตก ทำให้มีการรีบส่งลิ่มเลือดมาอุดแผลไว้ จนกลายเป็นทำให้เส้นเลือดอุดตัน เกิดอาการแน่นหน้าอก หายใจผิดจังหวะ

อันตรายต่อหัวใจ-ระยะยาว

จะเกิดภาวะหลอดเลือดอักเสบ และภาวะหลอดเลือดหัวใจตีบ

อันตรายต่อหลอดเลือด

เกิดภาวะหลอดเลือดอักเสบ และภาวะหลอดเลือดหดตัว

Exit mobile version