โรค Covid – 19 ได้ระบาดมาอย่างยาวนานถึง 3 ปี ซึ่งในปัจจุบันนี้ประเทศไทยก็ได้รับการจัดสรรวัคซีนสำหรับผู้ใหญ่มาอย่างเพียงพอ แต่สำหรับเด็กเล็กแล้วนั้นได้เริ่มมีการทดลองฉีดวัคซีน ไฟเซอร์ไปบ้างแล้ว เด็กในวัย 5 – 11 ปี จะได้รับการฉีดวัคซีนในปริมาณ 10 ไมโครกรัม/โดส และเป็นฝาสีส้ม ที่สำคัญคือไม่สามารถใช้ร่วมกับวัคซีนของผู้ใหญ่ได้แม้จะแบ่งออกเป็น 3 โดส โดสละเท่า ๆ กันก็ตาม วันนี้เรามีการเตรียมตัวก่อนฉีดวัคซีนโควิดในเด็กมาฝากให้คุณพ่อคุณแม่ได้ศึกษาก่อนพาลูก ๆ ไปฉีดวัคซีนกันค่ะ
การเตรียมตัวก่อนฉีดวัคซีนโควิดในเด็กอายุ 5 – 11 ปี
เด็กในวัย 5 – 11 ปี ที่กำลังจะได้รับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ในช่วงที่ใกล้จะถึงนี้ คุณพ่อคุณแม่ควรเตรียมตัวลูกให้แข็งแรงและพร้อมสำหรับการรับวัคซีน โดยเฉพาะเด็กที่อยู่ใน 7 กลุ่มโรคที่มีความเสี่ยงสูงไม่ว่าจะเป็นโรคเบาหวาน, โรคอ้วน, โรคทางเดินหายใจเรื้อรังหรือหอบหืด, โรคไตวายเรื้อรัง, โรคมะเร็ง, โรคหัวใจและหลอดเลือด, และโรคทางพันธุกรรมหรือเด็กที่มีพัฒนาการช้า วันนี้เรามี การเตรียมตัวก่อนฉีดวัคซีนโควิดในเด็กมาฝากคุณพ่อคุณแม่กันค่ะ
เตรียมร่างกายให้แข็งแรง
การเตรียมร่างกายของลูกในวัย 5 – 11 ปี สิ่งที่สำคัญคือการรักษาร่างกายไม่ให้เจ็บป่วยเพราะถ้าหากลูกเกิดมีไข้จะไม่สามารถทำการฉีดวัคซีนได้
รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่
การรับประทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ไม่จำเป็นจะต้องทานแช่ในช่วงก่อนการฉีดวัคซีนแต่จำเป็นที่จะต้องทานในทุก ๆ วัน เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่เพียงพอและแข็งแรง
ดื่มน้ำให้เยอะ
การดื่มน้ำก็นับว่าเป็นเรื่องสำคัญของร่างกายของคนในทุก ๆ วัย อย่างน้อยต้องดื่มน้ำวันละ 8 แก้วเพื่อให้น้ำเพียงพอต่อร่างกาย
วิธีดูแล หลังการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ในเด็กอายุ 5 – 11 ปี
การเตรียมตัวก่อนฉีดวัคซีนโควิดเป็นสิ่งสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่ควรปฏิบัติตามก่อนที่จะพาลูกไปฉีดวัคซีนไฟเซอร์ ซึ่งหลังจากการฉีดแล้วมักจะมีอาการข้างเคียงตามมาเด็กแต่ละคนจะมีอาการข้างเคียงที่แตกต่างกันออกไป อาการที่พบเจอบ่าย ๆ มีดังนี้
- หลังฉีดวัคซีนมีอาการปวด บวม แดง ร้อนบริเวณที่ฉีด
- อ่อนเพลีย
- ปวดศีรษะเล็กน้อย
ทั้ง 3 อาการนี้มักจะพบเจอได้โดยทั่วไป และอาการเหล่านี้จะสามารถหายได้เองในช่วงระยะเวลา 24 – 48 ชั่วโมง ส่วนอาการทางด้านล่างเป็นอาการที่ควรเฝ้าระวังถ้าหากมีอาการเหล่านี้เกิดขึ้น จำเป็นต้องรีบพบแพทย์ทันที
- อาการแน่นหน้าอก, เจ็บหน้าอก
- มีไข้สูงมากกว่า 39 องศาเซลเซียส
- หอบเหนื่อย
- หมดสติหรือเป็นลม
- อ่อนเพลีย ไม่มีแรง
- ปวดหัวรุนแรง
- อาเจียน รับประทานอาหารไม่ได้
- ใจสั่น
ข้อควรระวัง ก่อนฉีดไฟเซอร์เด็ก
เด็กในช่วงวัย 5 – 11 ปี จะได้รับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ฝาสีส้มซึ่งมีปริมาณ 10 ไมโครกรัมต่อโดส เด็กจะต้องฉีดจำนวน 2 เข็มในระยะเวลาห่างกันประมาณ 4 – 12 สัปดาห์ ในช่วงระยะห่างของการรับวัคซีนเท่านี้จะเกิดผลข้างเคียงที่น้อยกว่าฉีดห่างกัน 4 สัปดาห์ และการเตรียมตัวก่อนฉีดวัคซีนโควิดในเด็กมีดังนี้
ลูกมีไข้
การเตรียมตัวก่อนฉีดวัคซีนโควิดสิ่งที่ควรคำนึงถึงเลยคือถ้าหากว่าลูกอยู่ในช่วงที่ไม่สบาย มีไข้ต่ำไปจนถึงไข้สูง มีร่างกายอ่อนเพลีย ตามคำแนะนำของแพทย์แล้วให้ทำการรักษาอาการไม่สบายจนหายดีเสียก่อนที่จะพาลูกไปฉีดวัคซีน เพราะถ้าหากไปฉีดวัคซีนในช่วงที่มีไข้อาการของลูกอาจจะรุนแรงมากขึ้นได้
ลูกมีโรคประจำตัว
โรคประจำตัวที่ว่านี้เป็นโรคประจำตัวที่มีอาการรุนแรง ซึ่งถ้าหากลูกมีโรคประจำตัวเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แนะนำให้ทำการปรึกษาแพทย์ เพื่อที่จะได้รับคำแนะนำอย่างถูกต้องก่อนการฉีดวัคซีน
การเตรียมตัวก่อนฉีดวัคซีนโควิดเป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรดูแลบุตรหลานเป็นอย่างมาก เมื่อฉีดวัคซีนมาเรียบร้อนแล้ว คุณพ่อคุณแม่ต้องดูแลและงดเรื่องกิจกรรมที่ใช้แรงเยอะ เช่นการว่ายน้ำ ออกกำลังกาย การปีนป่ายแบบโลดโผน เป็นระยะเวลาประมาณ 7 วันหลังฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันอาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบเฉียบพลัน