Site icon simplymommynote

เสริมพัฒนาการที่ดีให้กับลูก เลี้ยงลูกด้วยดนตรี

เรื่อง “พัฒนาการที่ดีของลูก” เป็นสิ่งที่พ่อแม่ใส่ใจมากเป็นอันดับต้นๆ ซึ่งในปัจจุบันเราจะพบว่ามีหลายๆ ครอบครัวที่นิยมส่งเสริมให้ลูกได้เรียนวิชาดนตรีเพิ่ม แสดงว่า “ดนตรี” มีส่วนส่งเสริมได้จริง แต่เอ๊ะ…จะส่งเสริมด้านใดบ้าง เราไปดูกันเลยค่ะ

แม่โน้ตเองก็เล่นดนตรีอยู่วงโยธวาทิตโรงเรียนสมัยมัธยมต้น เล่นมาประมาณ 3 ปี เห็นจะได้ ที่เห็นชัดๆ ได้กับตัวเองคือ เรามีสมาธิมากขึ้นค่ะ จดจำสิ่งต่างๆ ได้มากขึ้น

ลูกชอบเสียงร้องเพลงของแม่ มากกว่าเสียงพูด

“พัฒนาการด้านการฟัง” นับเป็นพัฒนาการด้านแรกๆ ของลูก เพราะตั้งแต่ลูกยังอยู่ในท้อง เค้าจะสามารถได้ยินเสียงที่เราสื่อสารออกไปได้ตั้งแต่ช่วง 16 สัปดาห์ของการตั้งครรภ์

ในวัยทารกเค้าจะมีความชื่นชอบเสียงเพลงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ลูกสามารถรับรู้เสียงสูง-ต่ำได้ดี รวมไปถึงสามารถแยกเสียงพูดและเสียงร้องเพลงของแม่ออกจากเสียงผู้หญิงคนอื่นๆ ได้ดีอีกด้วยค่ะ

หากคุณแม่มีการกระตุ้นพัฒนาการด้านการฟังของลูกตั้งแต่อยู่ในท้อง หลังคลอดแล้ว 3 สัปดาห์ ลูกจะสามารถตอบสนองได้ดีขึ้น โดยเฉพาะเวลาที่คุณแม่ปลอบหรือร้องเพลงให้ลูกฟัง ลูกจะรู้สึกสงบและผ่อนคลาย

“ดนตรี” ช่วยสร้างเสริมทักษะในด้านต่างๆ ได้ ไปดูกันค่ะว่ามีอะไรบ้าง

ความสามารถในการรับรู้และความสามารถทางภาษา

ครอบครัวไหนที่ต้องการให้ลูกมีพัฒนาการด้านการรับรู้และมีความสามารถทางภาษาที่ดี “การเล่นดนตรี” เป็นอีกหนึ่งแนวทางที่สามารถกระตุ้นทักษะด้านนี้ได้ดีและส่งผลไปถึงการอ่านก็จะทำได้ดีเช่นกัน เนื่องจากเสียงและคำพูดมีระบบการทำงานร่วมกัน และต้องทำควบคู่กันไป การเล่นดนตรีบ่อยๆ จึงช่วยฝึกเรื่องการถอดเสียงและถอดรูปแบบคำต่างๆ ยิ่งถ้าให้ลูกได้เล่นดนตรีนานเท่าไหร่ ก็จะยิ่งทำให้สมองด้าน “ภาษาศาสตร์” ถูกกระตุ้นและได้รับการพัฒนาไปด้วย โดยสังเกตได้จากลูกจะจำคำศัพท์ได้ดีและมีทักษะการอ่านที่ดีค่ะ

ทักษะด้านคณิตศาสตร์

“ทักษะการคำนวณที่ดีสร้างได้ด้วยการเล่นดนตรี”

มีงานวิจัยจากสหรัฐอเมริกาได้ทดลองแบ่งเด็กชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ออกเป็น 2 กลุ่ม พบว่า เด็กกลุ่มที่มีประสบการณ์การเล่นดนตรีมากกว่า 2 ปีขึ้นไป สามารถทำคะแนนทดสอบวิชาคณิตศาสตร์ขั้นพื้นฐานได้ดีกว่าเด็กที่ไม่เคยเล่นดนตรีมาก่อน

นอกจากนี้ ยังพบว่าเด็กในกลุ่มที่เล่นดนตรีนั้น คนที่เล่นคีย์บอร์ดสามารถทำคะแนนได้สูงกว่าเด็กที่เล่นเปียโนหรือร้องเพลงอย่างเดียว

พัฒนาการด้านสติปัญญา

มหาวิทยาลัยโตรอนโตแห่งแคนาดาได้ทดลองแบ่งเด็กออกเป็น 4 กลุ่ม โดย 2 กลุ่มแรกให้เรียนคีย์บอร์ดและร้องเพลงไปด้วย 5 วันต่อสัปดาห์ เป็นเวลา 7 เดือน อีก 2 กลุ่มให้ทำกิจกรรมอื่นที่ไม่ใช่การเล่นดนตรี

พบว่าทั้ง 4 กลุ่ม มีไอคิวที่ดีขึ้นตามพัฒนาการ แต่สิ่งที่แตกต่างคือ เด็กกลุ่มที่เล่นดนตรีมีไอคิวเพิ่มขึ้นถึง 7 จุด ขณะที่กลุ่มที่ไม่ได้เล่นดนตรีมีไอคิวสูงขึ้น 4.3 จุด

ที่สำคัญ “เด็กที่เล่นคีย์บอร์ดมีพัฒนาการด้านสติปัญญาที่ดีกว่าเด็กที่เล่นเปียโนและร้องเพลง”

พัฒนาการด้านร่างกาย และมีสุขภาพดี

ประโยชน์ของ “การเล่นดนตรี” ไม่ใช่แค่ดีเฉพาะเรื่องภาษาและสติปัญญาดีเท่านั้นนะคะ แต่ยังดีต่อร่างกายค่ะ จากการทดสอบทางวิทยาศาสตร์พบว่า ในวัยก่อนเข้าเรียนการเล่นดนตรีส่งผลที่ดีต่อร่างกายพอๆ กับการเล่นพละเลยทีเดียว

นอกจากนี้ยังพบว่าการร้องเพลงส่งผลดีต่อระบบภูมิคุ้มกัน หัวใจ การหายใจและการทำงานของปอด ช่วยปรับท่าทางและสรีระร่างกายให้ดีขึ้น ช่วยลดความตึงเครียดได้อีกด้วยนะคะ

การพัฒนาตนเองและทักษะด้านสังคม

ด้านการพัฒนาตนเอง เด็กๆ จะรู้สึกประสบความสำเร็จจากการมุ่งมั่นและอดทน เพราะกว่าจะเล่นเป็นเพลงได้ เด็กๆ จะต้องอาศัยการฝึกซ้อม ต้องใช้เวลากว่าจะทำได้ ซึ่งนับเป็นการสร้างวินัยในตนเองไปในตัว เมื่อทำได้สำเร็จ เด็กๆ จะเกิดความภูมิใจ มั่นใจในตัวเอง และกล้าแสดงออก

ทักษะด้านสังคม เพราะการเล่นดนตรี เด็กๆ จะต้องมีการเล่นร่วมกับคนอื่นๆ เป็นการสร้างมิตรภาพ ได้เรียนรู้การเข้าสังคม การทำงานเป็นทีม มีระเบียบวินัย และมีความรับผิดชอบ

 “การเล่นดนตรี” เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่จะช่วยเสริมสร้างพัฒนาการในหลายๆ ด้านนอกจากจะช่วยให้ผ่อนคลายแล้ว ยังได้มีโอกาสพบปะเพื่อนใหม่อีกด้วยนะคะ เพราะ “ดนตรี” เป็นภาษาสากล ที่ประเทศไหนก็พูดเหมือนกัน ภาษาเดียวกัน

Exit mobile version