ทัศนคติแบบ Fixed Mindset vs Growth Mindset
เราเคยถามตัวเองหรือไม่ว่าเราเป็นคุณพ่อคุณแม่เลี้ยงลูกน้อยด้วยวิธีไหน? แบบใด? โดยเฉพาะเรื่องทัศนคติของลูก ๆ เคยสังเกตหรือไม่ว่า พฤติกรรมกระบวนการทางความคิดของลูกเราเป็นแบบใด? เพราะนั่นอาจเป็นตัวชี้วัดการเลี้ยงดูอย่างหนึ่งว่ามีการเลี้ยงลูกในลักษณะแบบไหนนั่นเอง เพราะทัศนคติหรือกระบวนการความคิดของลูก ๆ ยังเป็นตัวชี้วัดการเจริญเติบโตทางด้านความคิดของลูกน้อยอีกด้วย คุณพ่อคุณแม่เคยได้ยินหรือรู้จักเรื่องทัศนคติแบบ Fixed Mindset และ Growth Mindset กันมาบ้างไหมคะ ถ้าเคยบ้างแต่ยังไม่ละเอียดเท่าไหร่ วันนี้จะชวนมากมาทำความรู้จักไปพร้อมกันว่าทัศนคติทั้ง 2 แบบคือ อะไร? เกี่ยวข้องกับลูกน้อยของเราอย่างไรบ้าง?
Fixed Mindset คืออะไร?
กรอบความคิดแบบยึดติด (fixed mindset) คือ กระบวนการความคิด วิธีคิดหรือทัศนคติแบบดั้งเดิม หรือเรียกง่าย ๆ ว่า กระบวน “การคิดแบบในกรอบ” เป็นความคิด ความเชื่อเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ ว่าเราเกิดมาด้วยทักษะ ความสามารถที่ติดตัวมาแต่เกิด ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ความสำเร็จของคนเกิดจากพรสวรรค์
นอกจากนี้ ยังเชื่อว่าคนเราเกิดมาพร้อมกับสิ่งดี ๆ บางอย่าง และมีบางสิ่งที่ไม่ดี มีความกลัวหรือเกิดความกังวลต่อการเปลี่ยนแปลง เพราะเกรงว่าหากเกิดการเปลี่ยนแปลงแล้วทุกอย่างอาจไม่ดีเช่นเคย ลองสังเกตดูว่าเราสอนลูกๆให้มีทัศนติแบบนี้หรือไม่ หรือลูกเรากำลังมีทัศคติกระบวนการทางความคิดแบบยึดติดหรือไม่
ลักษณะของผู้มี Fixed Mindset
- เชื่อว่าทุกสิ่งถูกกำหนดมาแล้วไม่สามารถพัฒนาเพิ่มเติมได้ ทุกความสามารถหรือทักษะต่างๆเกิดจากพรสวรรค์โดยไม่ต้องพยายาม
- รู้สึกว่าต้องการการยอมรับ และมักปกป้องตัวเองโดยมักโชว์ด้านที่เก่งที่สุดออกมา
- กลัวการเรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ ๆ ไม่พร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ เนื่องจากกลัวความล้มเหลว
- มองว่าความผิดพลาดที่เกิดขึ้น คือความล้มเหลวมากกว่าจะเป็นโอกาสในการเรียนรู้ข้างหน้า
- พยายามหลีกเลี่ยงความเสี่ยง หรือสถานการณ์ท้าทายเพราะอาจนำมาซึ่งความล้มเหลว
ตัวอย่าง Fixed Mindset
สำหรับตัวอย่างเพื่อสังเกตุว่าลูกน้อยของเราหรือแม้แต่ตัวคุณพ่อคุณแม่เองมีทัศนคติแบบ Fixed Mindset หรือไม่มาดูตัวอย่างของคนที่มีความคิดแบบ Fixed Mindset เช่น
- ลูกเราเป็นคนไม่เก่งวิชาคณิตศาสตร์เพราะพ่อแม่เองก็ไม่เก่งเช่นกัน
- ฉันไม่ใช่คนเก่งที่สามารถเล่นสกีได้ เพราะเคยลองแล้วและมักเกิดอาการบาดเจ็บอยู่บ่อยๆ
- ลูกเราเป็นนักกีฬาเทสนิสที่เก่งโดยธรรมชาติ
- หนูโตไปเป็นนางแบบที่หนูชอบไม่ได้หรอกค่ะ เพราะหนูไม่สวยเหมือนคนอื่น (ลักษณะนี้สามารถมองได้ว่าเด็กขาดความมั่นใจ และมี Low Self-esteem หรือการเห็นคุณค่าในตัวเองต่ำ)
Growth Mindset คืออะไร?
กรอบความคิดแบบเติบโต (growth mindset) คือ กระบวนการความคิดหรือทัศนคติและแนวคิดแบบยืดหยุ่นและเติบโตพัฒนาต่อไปข้างหน้า เรียกอีกอย่างว่า “การคิดนอกกรอบ” เชื่อว่าความฉลาด ความสามารถ สามารถเปลี่ยนแปลงได้ และเราสามารถพัฒนาทักษะ ความสามารถด้านต่าง ๆ ทั้งร่างกายจิตใจ สติปัญญาให้ดีขึ้นกว่าเดิมได้หากเรามีความพยายาม มุ่งมั่นต่อสิ่งเหล่านั้น กระบวนการความคิดแบบ growth mindset ช่วยให้ลูก ๆ เกิดการพัฒนาสามารถคิดวิเคราะห์และสร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ ได้ดีขึ้น เกิดกระบวนการพัฒนาทางความคิดอย่างต่อเนื่อง
ลักษณะของผู้มี Growth Mindset
- เชื่อว่าทุกสิ่งสามารถพัฒนาให้ดีขึ้นกว่าเดิมได้จากการพัฒนาและฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง
- กล้าเรียนรู้จากความผิดพลาด ล้มเหลวแล้วนำไปพัฒนาต่อรวมถึงการเรียนรู้จากคำวิจารณ์ของผู้อื่นและนำไปปรับปรุงพัฒนา
- สนุกกับการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ พร้อมที่จะรับมือกับความท้าทาย เพื่อพัฒนาความฉลาด ความสามารถ และทักษะด้านอื่น ๆ ไปพร้อม ๆ กัน
- มีเป้าหมายในการพัฒนาตัวเอง มองปัญหาเป็นโอกาสในการเรียนรู้และพัฒนา
- เรียนรู้ความสำเรผ้จจากคนอื่น นำข้อดีจากผู้ที่ประสบความสำเร็จมาปรับใช้ หรือหาวิธีเรียนรู้จากเขา
ตัวอย่าง Growth Mindset
ดังที่กล่าวไปข้างต้นว่า Growth Mindset เป็นกระบวนการความคิดแบบเติบโต พร้อมเรียนรู้และพัฒนาสิ่งใหม่ ประสบการณ์ใหม่อยู่เสมอตัวอย่างการสังเกตลูกน้อยมีแนวโน้มมีกระบวนการความคิดแบบเช่น
- หนูอยากเรียนรู้สิ่งใหม่ที่ยังไม่เคยลองทำดูบ้างค่ะ อยากรู้ว่าจะสนุกและท้าทายขนาดไหน
- หนูเล่นกีฬาชนิดนนี้ได้ดี แต่อาจต้องเรียนรู้เทคทิคในการเล่นใหม่เพิ่มเติมเพื่อให้ฝีมือดีขึ้นไปอีก
- คุณครูคะเมื่อวานหนูทำการบ้านวิชาคณิตศาสตร์ผิดไป 2 ข้อ ช่วยอธิบายทีได้มั้ยคะว่าหนูทำผิดตรงไหน ครั้งหน้าจะได้แก้ไขให้ถูกต้อง
- แม้ลูกยังเล่นดนตรีไม่ถนัด แต่แม่เชื่อว่าลูกทำได้ถ้าลูกสนใจและอยากเรียนรู้ให้เพิ่มเติมอีกหน่อย
วิธีการสอนลูกให้มี Growth Mindset
คุณพ่อคุณแม่ที่ต้องการปลูกฝังในลูกน้อยมีทัศนคติ กระบวนการทางความคิดแบบ Growth Mindset อาจต้องเริ่มปรับที่ตัวเราก่อนเป็นอันดับแรกเพราะลูกน้อยมักเรียนรู้และจดจำการแสดงออกจากพ่อแม่ หรือคนใกล้ นอกจากนี้เรายังสามารถแนะนำหรือสอนให้ลูกๆมีทัศนคติแบบ Growth Mindset ด้วยการปลูกฝังลูกๆดังนี้
เรียนรู้จากความผิดพลาด
เปิดโอกาสให้ลูก ๆ ได้เรียนรู้จากสิ่งผิดพลาดต่าง ๆ เพื่อการพัฒนาและปรับปรุง อธิบายให้ลูกเข้าใจว่าความผิดพลาดไม่ใช่สิ่งไม่ดีแต่เป็นสิ่งที่เราต้องเรียนรู้
หลีกเลี่ยงการตำหนิ
เมื่อลูก ๆ ทำผิดพลาด พ่อแม่ไม่ควรตำหนิแต่ควรพูดคุยกันอย่างเข้าใจและสอนให้ลูกยอมรับและแก้ไขข้อผิดพลาด เพราะการตำหนิเป็นการปิดโอกาสในการเรียนรู้ของลูกๆ
ไม่ปิดกั้นทางความคิด
แต่กระตุ้นให้ลูกได้คิดหลาย ๆ รูปแบบทั้งการคิดนอกกรอบ หรือการคิดตามแบบแผนคิดในทุกแง่มุมของปัญหาและเป้าหมายเหล่านั้นเพื่อให้ลูกได้ให้เด็กๆ มองสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจากแง่มุมที่แตกต่างๆ
โฟกัสที่ความพยายาม
ลองเปลี่ยนวิธีชมลูกจากแบบเดิมเช่น ลูกเก่งมาก เป็นลูกพยายามและตั้งใจดีมาก เพื่อให้การชมว่าลูกเก่งอาจทำให้เขาเข้าใจว่า หากเขาไม่เก่งพอจะไม่ได้รับคำชื่นชมจากเรา
ให้ลูกได้เผชิญปัญหาด้วยตัวเอง
แม้ทุกอย่างอาจจะดูช้าขัดใจคุณพ่อคุณแม่ แต่ลองปล่อยให้เขสาได้มีเวลาโฟกัสกับสิ่งเหล่านั้นด้วยตัวเอง ได้เรียนรู้และพัฒนาตัวเองอย่างเต็มที่
ส่งเสริมให้ลูกได้ลองทำสิ่งใหม่ ๆ
สนับสนุนให้ลูกได้ทำสิ่งที่เขาไม่เคยทำเพื่อให้เขาได้เรียนรู้และพัฒนาตัวเองขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมที่จะเปิดใจเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ในอนาคต
การสอนลูกให้มีทัศนคติแบบ Growth Mindset ควรเริ่มที่คุณพ่อคุณแม่หรือผู้ปกครองก่อนเพราะลูกมักเรียนรู้จากคนใกล้ตัวก่อนเสมอ การฝึกให้ลูกได้คิดแบบนอกกรอบอย่างสร้าวสรรค์เป็นการเสริมพัฒนาการทางด้านความคิดและการเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ให้ให้ดียิ่งขึ้น ที่สำคัญ ยังเป็นการช่วยกระตุ้นพัฒนาการด้าน CQ หรือ Creativity Quotient ซึ่งเป็น 1 ใน 11 Quotients ที่เด็ก ๆ ควรมีอีกด้วยค่ะ และควรเปิดโอกาสให้เด็ก ๆ ได้มีส่วนร่วมกับประสบการณ์และการคิดบวกมากขึ้น นอกจากนี้ทัศนคติแบบ Growth Mindset ยังสามารถพัฒนาการทางด้านอารมณ์เชิงบวกให้แก่เด็ก ๆ ได้ดีอีกด้วย