ลูกติดแม่มากกว่าพ่อ ทำอย่างไรที่จะลดช่องว่างระหว่างลูกกับพ่อ ให้พ่อมีตัวตนในสายตาลูกมากขึ้น
ตั้งแต่คลอดน้องมินมา พ่อเหมี่ยวก็ตัดสินใจให้แม่โน้ตลาออกจากงาน เพื่อมาเลี้ยงลูกเอง ซึ่งถ้าให้จ้างพี่เลี้ยงเราเห็นตรงกันว่าไม่เอา อยากเลี้ยงเองมากกว่า และด้วยความที่แม่โน้ตเลี้ยงลูกเอง ในขณะที่พ่อเหมี่ยวต้องออกไปทำงานนอกบ้านที่กรุงเพทฯ บ้าง ต่างประเทศบ้าง ก็ทำให้นาน ๆ ถึงจะกลับบ้านที เพราะฉะนั้นงานนี้ดูเหมือน “แม่จะมีตัวตนมากกว่าพ่อในสายตาของลูก” ทำให้ลูกติดแม่ สนิทกับแม่มากกว่าพ่อ แต่…จะทำอย่างไรให้พ่อมีตัวตนในสายตาของลูกบ้าง งานนี้ต้องอาศัยคุณแม่ช่วยแล้วล่ะค่ะ ต้องทำอย่างไรบ้าง ไปติดตามกันค่ะ
สาเหตุที่ลูกติดแม่มากกว่าพ่อ
ลูกอยู่ด้วยแล้วรู้สึกอบอุ่น ปลอดภัย
ในที่นี้ไม่ได้หมายความว่าคุณแม่จะต้องมีกล้ามใหญ่ เล่นเวทอะไรนะคะ เพียงแต่ว่าเวลาที่ลูกร้องไห้งอแงนั้น คุณแม่ตอบสนองลูกได้ถูกต้อง เมื่อลูกยังเล็ก ๆ ไม่ปล่อยให้ลูกร้องนาน (เพราะถ้าปล่อยให้เค้าร้องนาน ลูกจะรู้สึกว่าเค้าเริ่มไม่ปลอดภัยแล้ว คุณแม่ไปไหน)
อยู่กับลูกตลอดเวลา
ด้วยความที่แม่โน้ตได้เปรียบพ่อเหมี่ยวที่ได้ใช้เวลาอยู่กับลูกตลอดเวลา เราก็จะรู้ว่าสิ่งที่เค้าทำ เค้าพูดนั้นคืออะไร หรือต้องการที่จะสื่ออะไร เพราะเราเข้าใจเค้านั่นเอง
บุคลิกที่ต่างกันระหว่างพ่อกับแม่
ผู้ชายจะมีร่างกายที่สูงใหญ่กว่าผู้หญิง เสียงดังกว่าผู้หญิง ซึ่งทั้งสองสิ่งนี้ทำให้เด็กรู้สึกกลัว ทั้งที่ความจริงแล้วคุณพ่อเพียงแค่พูดปกติ ไม่ได้ดุอะไรลูกเลย เป็นต้น สิ่งนี้ก็ทำให้ลูกไม่กล้าเข้าใกล้
ส่งเสริมหรือขัดขวาง
หรือจะพูดง่าย ๆ ก็คือ ขัดใจ หรือตามใจนั่นเอง ใครตามใจเด็กก็จะเข้าหาคนนั้นเป็นเรื่องธรรมดาค่ะ ส่วนแม่โน้ตเองมีตามใจบ้าง ขัดใจบ้างปน ๆ กันไป
ทำอย่างไรให้พ่อมีตัวตนในสายตาลูก
แบ่งหน้าที่ให้คุณพ่อบ้าง
เข้าใจค่ะ ว่าคุณพ่อทำงานนอกบ้านมาก็เหนื่อยพอแรงแล้ว แต่ถ้าอยากมีตัวตนในสายตาลูก คุณพ่อก็ต้องยอมนะคะ^^ การแบ่งหน้าที่ เช่น การอาบน้ำให้ลูก ป้อนข้าวลูก หรือจะอ่านนิทานให้ลูกฟังก่อนนอนก็ได้ค่ะ
ใช้จุดเด่นของคุณพ่อดึงดูดลูก
ถ้าคุณพ่อมีความสามารถเรื่องการพากย์เสียง ก็อาจหาตัวตุ๊กตามือเล่นกับลูกก็สนุกไปอีกแบบนะคะ หรือเป็นคนที่เล่าเรื่องต่าง ๆ ได้อย่างสนุก ก็สามารถนำเรื่องต่าง ๆ มาเล่าให้ลูกฟัง พร้อมตั้งคำถามปลายเปิด ชวนให้ลูกคิดหาคำตอบไปด้วยกันแบบนี้ก็ได้ค่ะ
ทำกิจกรรมร่วมกับลูก
อาจเริ่มได้ง่าย ๆ ด้วยการทำสวน ปลูกต้นไม้ในวันเสาร์-อาทิตย์ ก็ถือเป็นการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์อีกทางหนึ่ง
ให้คุณแม่ได้ไปช้อปปิ้ง
ให้คุณพ่อและคุณลูกอยู่กันตามลำพังบ้าง ข้อนี้ดีต่อใจคุณแม่อย่างเราจริง ๆ เนาะ
แบ่งเวลาให้ครอบครัว
ชวนกันเล่นเกมสร้างสรรค์ ใช้เวลาคุณภาพด้วยกันทั้งพ่อ แม่ ลูก ก็เป็นการกระชับความสัมพันธ์ได้ดีทีเดียว อาจเป็นเกมเจงก้า โดมิโน ฯลฯ ก็ได้ค่ะ (เป็นการฝึกสมาธิได้ด้วยนะ)
รักลูก บอกลูก กอดลูก
“การสัมผัส” คือ การบอกรักลูกที่ดีที่สุด รักลูกให้บอกลูกว่ารัก กอดเค้าให้เค้ารู้ว่าเค้ามีความหมายต่อคุณพ่อคุณแม่มากแค่ไหนนะคะ เพราะวันที่ลูกบอกรักเรา…มันตื้นตันอย่างบอกไม่ถูกจริง ๆ ค่ะ ต้องลองเองเน้อ^^
ชื่นชมคุณพ่อให้ลูกฟัง
เป็นการตอกย้ำให้ลูกรู้ว่า แม้คุณพ่อไม่ค่อยอยู่บ้าน เพราะเค้ามีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ แต่สิ่งดี ๆ ที่คุณพ่อทำไว้ให้ลูกและครอบครัวนั้นมากมายแค่ไหน เพื่อให้ลูกได้รับรู้และซึมซับเรื่องราวดี ๆ ของคุณพ่อค่ะ