5 ที่เที่ยวเชิงธรรมชาติอนุรักษ์ ใกล้กรุงเทพ
ประเทศไทยนับว่ามีแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์เยอะมาก โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อไม่ให้กระทบต่อระบบนิเวศ แต่จริงๆ แล้วมันคือรูปแบบของ Ecotourism โดยการท่องเที่ยวธรรมชาติเชิงอนุรักษ์ได้รับการระบุว่าเป็นวิธีการส่งเสริมความคิดริเริ่มในการอนุรักษ์ในประเทศต่างๆ เพื่อเป็นการรักษาพื้นที่ธรรมชาติสำหรับสัตว์ป่า ตลอดจนการลดของเสียและมลพิษ ซึ่งช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยในประเทศไทยให้ความสำคัญเยอะมาก เพราะเป็นประเทศที่มีชื่อเสียงเรื่องการท่องเที่ยวเชิงนิเวศเป็นแรงจูงใจในการเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพและรักษาทรัพยากรธรรมชาติ ให้ชาวบ้านมีแหล่งรายได้ การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์สามารถต่อสู้กับความยากจนและส่งเสริมชุมชนพื้นเมืองในท้องถิ่นด้วยการสร้างโอกาสในการจ้างงาน ส่งเสริมการอนุรักษ์ระบบนิเวศ และสิ่งมีชีวิตที่สำคัญ
5 ที่เที่ยวเชิงธรรมชาติอนุรักษ์
คุ้งบางกะเจ้า จังหวัดสมุทรปราการ
ขอบคุณภาพจาก Thaipost.net
ประเดิมแรกสำหรับ “คุ้งบางกะเจ้า” ซึ่งเป็นศูนย์อนุรักษ์ระบบนิเวศในจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งเป็นระบบนิเวศที่สำคัญมากต่อประเทศไทย ที่ไม่ควรมีการถูกทำลายเลย เนื่องจากป้องกันน้ำทะเลท่วมเข้าตัวเมืองชั้นใน รวมถึงป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งเข้ามาในกรุงเทพ คุ้งบางกะเจ้าไม่เพียงแค่เป็นหัวใจของคนท้องที่เท่านั้น ยังอุดมไปด้วยระบบนิเวศวิทยา มีทั้งระบบ 3 น้ำ เช่น น้ำจืด (แม่น้ำ) น้ำเค็ม (น้ำทะเล) และน้ำกร่อย (การผสมระหว่างน้ำจืดและน้ำเค็ม) โดยเป็นพื้นที่สีเขียวในเมืองที่ให้อากาศที่สดชื่น ซึ่งมีต้นไม้ทั้งเล็กใหญ่ พื้นที่เกษตรกรรม พื้นที่สำหรับการค้าขายของชุมชน ป่าพรุ ป่าชายเลน และระบบ Cooling System ที่เกิดเองโดยธรรมชาติ
คุ้งบางกะเจ้า มีอะไรน่าสนใจ
- ไม่ห่างจากกรุงเทพฯ สามารถเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวได้
- มีสิ่งมีชีวิตสำคัญที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ เช่น ป่าโกงกาง
- มีการทำโซลาร์เซลล์เพื่อใช้เป็นพลังงานหมุนเวียน
รายละเอียดเพิ่มเติม คุ้งบางกะเจ้า
- พิกัด Google Map : https://goo.gl/maps/gHpc1YanvRV1C9RG8?coh=178571&entry=tt
- ที่อยู่ : 89/13 หมู่ 9 ถนนเพชรหึงษ์ ตำบลบางยอ อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ 10130
- เปิดทำการ : เปิดทำการ 9:00–17:00 น. (ปิดทุกวันจันทร์)
- โทร. : 095-871-6162
- Website : dasta.or.th
ทุ่งโปรงทอง จังหวัดระยอง
ขอบคุณภาพจาก esportivida.com
อีกที่ที่ไม่ห่างจากกรุงเทพฯ เลยสำหรับ “ทุ่งโปรงทอง” เป็นที่เที่ยวที่อากาศดีมาก ตั้งอยู่ที่ตำบลปากน้ำประแส เป็นป่าชายเลนที่มีชื่อเสียงบนเนื้อที่กว่า 6,000 ไร่ เรียกได้ว่าเป็นแหล่งอนุบาลสัตว์ทะเล และป่าชายเลนตามธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดระยอง จุดเด่นของที่นี่มีสะพานไม้ทอดยาว สำหรับการเที่ยวชมด้วยระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร ซึ่งมีต้นโกงกาง ที่ช่วยป้องกันการกัดเซาะ และต้นโปรงขึ้นเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะต้นโปรงที่จะมีจำนวนมากที่สุดของทุ่งแห่งนี้ ด้วยลักษณะของยอดใบที่มีสีเขียวอ่อนปนสีเหลือง ช่วงแดดออกจะเป็นช่วงที่สวยมากเลยทีเดียว
ทุ่งโปรงทอง มีอะไรน่าสนใจ
- ไม่ห่างจากกรุงเทพฯ สามารถเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวได้
- มีสิ่งมีชีวิตสำคัญที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ เช่น ป่าโกงกาง
- เป็นแลนด์มาร์คที่สำคัญของจังหวัดระยอง มีอากาศที่สดชื่นและปลอดภัย
รายละเอียดเพิ่มเติม ทุ่งโปรงทอง
- พิกัด Google Map : https://goo.gl/maps/nFw9mFgxy18Jt6qH7?coh=178571&entry=tt
- ที่อยู่ : ทุ่งโปรงทอง หมู่ 7 ตำบลปากน้ำประแส อำเภอแกลง จังหวัดระยอง 21170
- เปิดทำการ : เปิดทำการ 00-18.00 น.
- โทร. : 03-866-1720-1
- Website: tourismthailand.org
ศูนย์ศึกษาพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนฯ จังหวัดจันทบุรี
ขอบคุณภาพจาก tripcdn.com
นึกถึงจันทบุรีต้องนึกถึงทุเรียนเสมอ เพราะขึ้นชื่อเรื่องทุเรียนมาก แต่ก็มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอย่างศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตั้งอยู่ที่ ตำบลคลองขุด อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 4,000 ไร่ บริเวณอ่าวคุ้งกระเบนและบริเวณโดยรอบ ศูนย์แห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2525 มีหน้าที่ศึกษาวิจัยระบบนิเวศทางธรรมชาติเพื่อหาแนวทางที่เหมาะสมในการพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลในจังหวัดจันทบุรี ซึ่งเป็นสะพานศึกษาธรรมชาติ และป่าชายเลนบริเวณอ่าวคุ้งกระเบนซึ่งเป็นเส้นทางเดินป่าระยะทาง 1,600 เมตร สามารถเที่ยวชมได้ เพราะอากาศสดชื่น ลมทะเลค่อนข้างเย็นพอสมควร
ศูนย์ศึกษาพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนฯ มีอะไรน่าสนใจ
- ศูนย์ฯ ยังเป็นสถานที่ให้ผู้สนใจได้ศึกษาสภาพธรรมชาติที่จับต้องได้
- มีความน่าสนใจเพื่อให้เข้าใจระบบนิเวศในป่าชายเลนและสามารถใช้ทรัพยากรเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดภายในศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน
- เป็นแหล่งอากาศสดชื่นใกล้กรุงเทพฯ
รายละเอียดเพิ่มเติม ศูนย์ศึกษาพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนฯ
- พิกัด Google Map : https://goo.gl/maps/A11YjCwreMVZoh7z8?coh=178573&entry=tt
- ที่อยู่ : 31 หมู่ 4 ตำบลคลองขุด อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี 22120
- เปิดทำการ : เปิดทำการ 8:30–16:30 น.
- โทร. : 03-943-3216
- Website : tourismthailand.org
สะพานทุ่งนามุ้ย จังหวัดนครนายก
ขอบคุณภาพจาก tourismthailand.org
สะพานทุ่งนามุ้ย จังหวัดนครนายก จัดเป็นแลนด์มาร์คใหม่ในจังหวัดนครนายกที่ทำทางเป็นรูปตัว S โดยออกแบบเพื่อเป็นสถานที่สำหรับการตากอากาศ เพื่อให้เป็นดินแดนที่อากาศสดชื่น ได้ประโยชน์ สัมผัสวิถีชีวิตคนท้องถิ่นพร้อมกับการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวที่สะดวกสบาย และแวะจิบชากาแฟได้ตามต้องการท่ามกลางทุ่งนาเขียวขจี แถมมีจุดถ่ายรูปมากมายที่สวยงาม เขียวขจี นอกจากนี้แมวยังน่ารักมากเลยล่ะ
สะพานทุ่งนามุ้ย มีอะไรน่าสนใจ
- ไม่ห่างจากกรุงเทพฯ สามารถเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวได้
- เหมาะสำหรับการพักผ่อน ผ่อนคลายความเครียด ช่วย Meditation ได้อย่างดี
- บรรยากาศเป็นทุ่งนา ค่อนข้างปลอดโปร่ง
รายละเอียดเพิ่มเติม สะพานทุ่งนามุ้ย
- พิกัด Google Map : https://goo.gl/maps/xWDfpCTtCnRq7VkL9?coh=178573&entry=tt
- ที่อยู่ : เลขที่ 68 ตำบลสาริกา อำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก 26000
- เปิดทำการ : เปิดทำการ 00-16.00 น.
- โทร. : 089-600-1711
- Website : tourismthailand.org
สะพานสายรุ้ง ชายทะเลกาหลง จังหวัดสมุทรสาคร
ขอบคุณภาพจาก isanook.com
หลายคนมาที่สะพานสายรุ้ง จะต้องนึกถึงสะพานยาวๆ ที่ทำเป็นสีสันสวยงาม พร้อมชมวิวชายทะเลกาหลง โดยเป็นแลนด์มาร์คที่นิยมมากในจังหวัดสมุทรสาคร เพราะเป็นสะพานไม้สักที่ทาสีด้วยสีสันสวยงามยาว 100 เมตร มีจุดชมวิวทะเลกาหลงที่มีความสงบ และลมเย็นๆ ดีมาก นอกจากนี้ยังใกล้พื้นที่อนุรักษ์ป่าชายเลน ตำบลกาหลง ที่สามารถเข้าชมได้ฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือถ้าใครหิวก็แวะทานครัวริมเลได้อีกด้วย
สะพานสายรุ้ง ชายทะเลกาหลง มีอะไรน่าสนใจ
- เป็นแหล่งอากาศสดชื่นใกล้กรุงเทพฯ
- ให้กลิ่นอายความเป็นท้องถิ่นที่จับต้องได้
- เหมาะสำหรับคนอยากเที่ยวทะเลแต่ไม่ชอบความวุ่นวาย
รายละเอียดเพิ่มเติม สะพานสายรุ้ง ชายทะเลกาหลง
- พิกัด Google Map : https://goo.gl/maps/8gK2jjUZntCahMUu6?coh=178573&entry=tt
- ที่อยู่ : ถนนลบทะเล ตำบลกาหลง อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร 74000
- เปิดทำการ : –
- โทร. : –
- Website : tourismthailand.org
นี่ก็เป็น 5 ที่เที่ยวเชิงธรรมชาติอนุรักษ์ซึ่งมีประโยชน์กับประเทศไทยอย่างมาก ประโยชน์หลักประการหนึ่งของการท่องเที่ยวธรรมชาติเชิงอนุรักษ์ในประเทศไทยคือ การลดมลพิษและของเสีย หากคุณพ่อคุณแม่ต้องการเปลี่ยนบรรยากาศ ออกห่างจากกรุงเทพฯ บ้างก็สามารถแวะมาได้เพื่อสูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอด โดยส่งเสริมการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างรับผิดชอบ ด้วยการจำกัดการใช้พลังงาน การใช้แหล่งพลังงานหมุนเวียน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ และการหลีกเลี่ยงพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว นักท่องเที่ยวเชิงนิเวศจะช่วยปกป้องระบบนิเวศจากความเสียหายเพิ่มเติม นอกจากนี้ยังสร้างรายได้เข้าสู่ชุมชนอย่างแท้จริง