รอยแตกลายเป็นรอยที่เกิดขึ้นเองได้ตามธรรมชาติ เป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันของผิวหนังชั้นหนังแท้ เกิดได้ในหลายส่วนของร่างกายไม่ว่าจะเป็นต้นขา หน้าท้อง น่องด้านหลัง ฯลฯ และที่สำคัญ เกิดได้ทั้งในร่มและนอกร่มผ้า แต่ไม่ว่าจะด้านในหรือด้านนอก คงไม่มีใครอยากให้สิ่งนี้เกิดขึ้นหรอกโนะ เพราะฉะนั้นวันนี้แม่โน้ตมีครีมลดรอยแตกลายมาฝากค่ะ หลายยี่ห้อ หลายราคากันเลยทีเดียว
10 ครีมลดรอยแตกลาย ยี่ห้อไหนดี 2023
ครีมลดรอยแตกลาย Provamed Stretch Mark Cream
- ราคา 199 บาท
- ปริมาณ: 200 กรัม
ครีมลดรอยแตกลาย Mama’s Choice
- ราคา 249 -649 บาท
- ปริมาณ: 100 ml.
ครีมลดรอยแตกลาย COCORO TOKYO COOL ORGANIC OIL SERUM
- ราคา 2,000 บาท
- ปริมาณ: 120 ml.
ครีมลดรอยแตกลาย Burt’s Bees Mama Bee Belly Butter Duo Set
- ราคา 1,230 บาท
- ปริมาณ: –
ครีมลดรอยแตกลาย Palmer’s Tummy Butter
- ราคา 308 บาท
- ปริมาณ: 125 กรัม
ครีมลดรอยแตกลาย POLKA STRETCH MARK CREAM (สูตร Fragrance Free)
- ราคา 150 – 300 บาท
- ปริมาณ: 50 กรัม และ 150 กรัม
ครีมลดรอยแตกลาย Mama Mio The Tummy Rub Oil 120ml
- ราคา 1,065 – 1,820 บาท
- ปริมาณ: 120 ml.
ครีมลดรอยแตกลาย NIVEA Cream ตลับน้ำเงิน
- ราคา 40 – 178 บาท
- ปริมาณ: 30, 60, 150 และ 250 ml.
Bio Oil ไบโอ ออยล์
- ราคา 699 บาท
- ปริมาณ 200 ml.
ครีมลดรอยแตกลาย Pureen
- ราคา 91 บาท
- ปริมาณ: 200 ml.
สาเหตุท้องแตกลาย
ท้องแตกลายนั้นเป็นการฉีกขาดของผิวหนังชั้นหนังแท้ ทำให้เห็นเส้นเลือดที่อยู่ในชั้นที่ลึกลงไป ซึ่งเราจะเห็นเป็นลายสีเข้ม หลังจากนั้นเส้นเลือดหดตัวจึงทำให้เห็นเป็นพื้นที่สีขาวมากขึ้น หรือจะพูดง่าย ๆ ก็คือ ถ้าผิวหนังของเรามีการยืดและหดตัวอย่างรวดเร็วนั่นเอง ซึ่งท้องลายเกิดได้จากสาเหตุหลัก ๆ ดังนี้
- การตั้งครรภ์
- การลดน้ำหนักที่รวดเร็วเกินไป
วิธีการรักษารอยแตกลาย
การรักษารอยแตกลายสามารถทำได้หลายรูปแบบ ดังนี้
ทาครีมบำรุง
เนื่องจากผิวหรือรอยแตกลายจะเป็นบริเวณที่ต้องการความชุ่มชื้นมากเป็นพิเศษ เพราะฉะนั้นเราจึงควรมองหาผลิตภัณฑ์ที่มีมอยส์เจอร์ไรเซอร์สูงมาก ๆ มาทาบริเวณนี้เป็นประจำ
ทาว่านหางจระเข้
เนื้อของว่านหางจระเข้มีคุณบัติที่ให้ความชุ่มชื้นได้สูงมาก นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยวิตามินที่มีประโยชน์มากมายล้วนแล้วแต่มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยฟื้นฟูผิวให้กลับมานุ่ม ดูอ่อนเยาว์ได้อีกด้วย
ขัดผิว
แนะนำว่าขัดเบา ๆ นะคะ เนื่องจากการขัดผิวจะเป็นการช่วยขจัดเซลล์ที่ตายแล้วนั้นหลุดออกไป กระตุ้นในเกิดการสร้างเซลล์ใหม่ขึ้นมาทดแทน ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่นมากขึ้น
กินอาหารที่มีวิตามินซีสูง
การกินอาหารอย่างผักหรือผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงก็จะทำให้ผิวพรรณดูเปล่งปลั่งสดใส มีน้ำมีนวลได้ หลักการคล้าย ๆ กับการใช้ว่านหางจระเข้เลย เพียงแต่เปลี่ยนจากการทาไปเป็นการกินแทน นอกจากนี้ การทานวิตามินซีสามารถต้านหวัดได้อีกด้วยค่ะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
คนท้องกินวิตามินซีได้ไหม? จะส่งผลเสียต่อลูกในครรภ์หรือเปล่า?
วิธีการเลือกซื้อครีมลดรอยแตกลาย
เลือกจากรูปแบบของผลิตภัณฑ์
น้ำมัน (Oil)
มีลักษณะเป็นของเหลว ใช้งานง่าย และซึมซาบเข้าสู่ผิวได้เร็วมากกว่าชนิดอื่น ๆ สามารถใช้ได้ทันทีหลังอาบน้ำเสร็จ โดยเช็ดตัวให้หมาดก่อน
ครีมหรือโลชั่น (Cream/Lotion)
เป็นประเภทที่ซึมได้เร็วรองลงมาจากชนิดออยล์ บางยี่ห้อก็ซึมซาบเร็ว บางยี่ห้อก็ซึมซาบช้า ทำให้เหนียวเหนอะหนะ ข้อนี้คุณแม่ต้องหาข้อมูลดี ๆ อาจอ่านจากรีวิวเพิ่มเติมก็ได้ค่ะ
บาล์ม (Balm)
สำหรับบาล์มเป็นอะไรที่ลดอาการคันและให้ความชุ่มชื้นกับผิวได้ดีมาก ๆ เลย แต่…ก็มีข้อเสียคือ ซึมเข้าผิวได้ค่อนข้างช้า
เลือกตามวัตถุประสงค์
แม่โน้ตขอแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ดังนี้นะคะ
กลุ่มที่ไม่ได้ตั้งครรภ์
กลุ่มนี้อาจไม่ต้องกังวลอะไรมากค่ะ ซึ่งสามารถเลือกใช้ครีมได้ตามวัตถุประสงค์และคุณสมบัติอื่น ๆ ซึ่งกล่าวต่อไปได้เลย
กลุ่มที่ตั้งครรภ์
กลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ Sensitive มาก ต้องใส่ใจพิถีพิถันกันหน่อย คุณแม่ควรเลือกครีมลดรอยแตกลายที่ไม่มีส่วนผสมของ “วิตามินเอสังเคราะห์” เนื่องจากสารดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อพัฒนาการของลูกน้อยในครรภ์ได้ อาจเสี่ยงพิการได้ โดยเฉพาะช่วงตั้งครรภ์ในไตรมาสแรก
เพื่อให้แน่ใจ คุณแม่ตั้งครรภ์ควรเลือกสูตรที่ระบุว่า “For pregnancy” จะปลอดภัยที่สุดค่ะ
เลือกจากส่วนผสม
วิตามินซี
มีบทบาทในการเสริมสร้างคอลลาเจน ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่า ลดรอยแดง ลดเลือนรอยด่างดำ ทำให้ผิวแลดูเรียบเนียนขึ้น
ว่านหางจระเข้
ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น นุ่มละมุน และผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใสดูอิ่มน้ำ
สารสกัดจากถั่วขาว
ช่วยคงความยืดหยุ่นให้กับผิว นอกจากนี้ยังช่วยให้ผิวเนียนนุ่ม และกระชับ
กลีเซอรีน
มีคุณสมบัติที่ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของผิว และช่วยเก็บกักความชุ่มชื้นให้กับผิว
ไฮยาลูโรนิกและเซราไมด์
2 ตัวนี้มีคุณสมบัติที่เก็บกักความชุ่มชื้นได้ดีเยี่ยม นอกจากนี้ยังมีโจโจบาร์ออยล์ โรสแมรี่ออยล์ หรือเชียร์บัตเตอร์ เหล่านี้ก็ล้วนแล้วแต่เป็นส่วนผสมสำคัญสำหรับการมอบความชุ่มชื้นคืนสู่ผิวได้ดีค่ะ
เลือกยี่ห้อหรือรุ่นที่ไม่เหนียวเหนอะหนะ ซึมซาบไว
เพราะถ้าหากครีมมีการซึมซาบได้ช้า ก็เท่ากับการทำงานของครีมก็ช้าตามไปด้วย ที่สำคัญจะทำให้คุณแม่รู้สึกเหนียวเหนอะหนะ ไม่สบายตัวได้ค่ะ
เลี่ยงสารเติมแต่ง สำหรับผู้ที่แพ้ง่าย
แนะนำว่าไม่ควรเลือกครีมที่มีสารดังต่อไปนี้ คือ สารลดแรงตึงผิว Petroleum, Paraben, Ethanol, Mineral Oil, ตัวดูดซับรังสี UV (อยู่ในรุ่นที่มีคุณสมบัติเป็นครีมกันแดดด้วย), สีสังเคราะห์ รวมไปถึงน้ำหอม
**พาราเบน และแอลกอฮอล์ มีผลทำให้ลูกน้อยในท้องพิการได้
หากตั้งครรภ์ ไม่ควรเลือกที่มีกลิ่นฉุน
เพราะคุณแม่ตั้งครรภ์บางคนหากได้กลิ่นอะไรที่ฉุน ๆ บางครั้งอาจทำให้คุณแม่มีอาการเวียนหัว และอาเจียนได้ ดังนั้น เพื่อกันไว้ดีกว่าแก้ ควรเลือกที่ไม่มีกลิ่นเลยดีกว่าค่ะ
เรื่องของผิวที่แตกลาย เราสามารถลดเลือนได้ แต่ถ้าจะให้เห็นผลลัพท์ที่ดีที่สุดสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ แนะนำว่าควรเริ่มทาตั้งแต่ท้องอ่อน ๆ ซึ่งแอดมินเองเริ่มทาตั้งแต่รู้ว่าตั้งครรภ์เลยค่ะก็ประมาณเดือนที่ 2 ของการตั้งครรภ์ค่ะ