การเป็นคุณแม่ถือเป็นช่วงเวลาการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญครั้งหนึ่งในชีวิตของคุณผู้หญิงเลย และการเปลี่ยนแปลงนี้ก็เริ่มตั้งแต่ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ให้ผลเป็นบวก คุณแม่ก็ควรเริ่มปรับเปลี่ยนเตรียมพร้อมสำหรับอีกหนึ่งชีวิตที่กำลังจะลืมตาขึ้นมาดูโลก ในแบบที่จะต้องให้ความสำคัญทั้งด้านความปลอดภัย รวมถึงสารอาหารที่เพียงพอต่อพัฒนาการและการเติบโตของลูกน้อย คราวนี้เราจึงเตรียมข้อห้ามที่คนท้องต้องรู้ เพื่อให้คุณแม่อุ้มท้องได้อย่างสบายใจปลอดภัยทั้งคุณแม่และลูกน้อยมาฝากกัน
ข้อห้ามเกี่ยวกับความปลอดภัย
สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ก็คือความปลอดภัยของคุณแม่ ที่จะส่งผลต่อความปลอดภัยของลูกน้อยในครรภ์ด้วย และอย่างที่ทราบกันดีว่าการที่คุณแม่ตั้งครรภ์นั้นทำให้ร่างกายไม่ได้แข็งแรงหรือแคล่วคล่องเหมือนเดิม ทั้งยังอ่อนไหวต่อสารเคมีสิ่งระคายเคือง จึงต้องระมัดระวังเกี่ยวกับความปลอดภัยเป็นพิเศษ เช่น
ห้ามทำงานบ้านที่อาจเป็นอันตราย
เพราะคุณแม่ตั้งครรภ์นั้นมีสรีระที่เปลี่ยนแปลงไป มีน้ำหนักมากขึ้น การทรงตัวหรือการเคลื่อนไหวอาจไม่แคล่วคล่องเหมือนเดิม ทำให้อาจเกิดอันตรายได้ทั้งการเสี่ยงต่อการลื่นล้ม เสี่ยงต่อการกระทบกระเทือน รวมทั้งหากทำงานที่เกี่ยวข้องกับสารเคมี เช่น ทาสี ก็เสี่ยงที่ได้จะรับสารเคมีอันตราที่อาจกระทบลูกน้อยในครรภ์ได้ ดังนั้นควรเลี่ยงไปก่อน
หลีกเลี่ยงพื้นที่อันตราย
เช่น ที่ ๆ เต็มไปด้วยควันบุหรี่ บริเวณที่มีการแผ่รังสี บริเวณที่เป็นแหล่งหมักหมมของของเสีย บริเวณที่มีสัตว์เป็นพาหะของโรค ซึ่งการเข้าไปอยู่ในบริเวณเหล่านั้นอาจทำให้คุณแม่ไม่ปลอดภัย ทั้งจากเชื้อโรค จากสารเคมี รวมถึงสัตว์ต่าง ๆ ที่อาจเป็นพาหะของโรคต่าง ๆ ได้
ห้ามทานยาพร่ำเพรื่อ
การตั้งครรภ์นั้นทำให้คุณแม่มีความอ่อนไหวต่อสารเคมีเพิ่มมากขึ้น ทั้งสารเคมีหลาย ๆ ตัวก็อาจไม่ได้ส่งผลดีกับทารกในครรภ์ การรับประทานยาพร่ำเพรื่อจึงไม่ใช่แค่การทำร้ายคุณแม่เท่านั้น แต่อาจทำอันตรายกับลูกน้อยได้ถึงขั้นแท้งบุตรทีเดียว
ห้ามสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์
ถือเป็นข้อห้ามที่ใกล้ตัวแต่ต้องเข้มงวดแบบสุด ๆ เนื่องจากคุณแม่อาจคิดว่าก่อนท้องก็ทำได้ แต่เมื่อตั้งครรภ์แล้วทั้งบุหรี่และแอลกอฮอล์ล้วนส่งผลต่อพัฒนาการและการเจริญเติบโตของเด็ก ทำให้มีพัฒนาการช้า และมีโอกาสคลอดก่อนกำหนดสูง ร้ายแรงถึงขั้นแท้งบุตรได้เช่นกัน ดังนั้นจึงควรต้องเลี่ยงออกไปก่อน
Credit: Unsplash
ข้อห้ามเรื่องอาหารและการกิน
อาหารการกินนับเป็นสิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรต้องใส่ใจและให้ความสำคัญเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นช่องทางที่จะนำสารอาหารจากคุณแม่เข้าไปบำรุงเลี้ยงดูทารกในครรภ์ ในอีกทางหนึ่งก็เป็นช่องทางรับความเสียงจากสารเคมีและเชื้อโรคต่าง ๆ เข้าไปด้วย ดังนั้นคุณแม่ตั้งครรภ์จึงควรระวังและงดสิ่งเหล่านี้
ห้ามดื่มนมมากกว่าวันละ 1 แก้ว
เนื่องจากในนมวัวมีโปรตีนที่น้ำย่อยของมนุษย์ไม่สามารถย่อยได้ การรับประทานนมในปริมาณมาก ๆ จึงไม่ใช่การบำรุงทารกในครรภ์ แต่เป็นการเพิ่มความเสี่ยงที่ทารกจะแพ้โปรตีนในนมวัวได้ง่าย ซึ่งหากคุณแม่ต้องการแคลเซียมเพิ่ม ก็สามารถรับประทานผักใบเขียว งาดำ หรือถั่วอัลมอนด์ทดแทนได้
ห้ามรับประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์
เพราะการรับประทานอาหารของคุณแม่จะกลายเป็นอาหารสำหรับลูกน้อยในครรภ์ ดังนั้นในทุก ๆ มื้ออาหารคุณแม่จึงควรสังเกตการรับประทานอาหารให้ครบถ้วนด้วยสารอาหารที่เป็นประโยชน์ หลีกเลี่ยงของหมักดอง อาหารรสจัด อาหารหวานจัด เค็มจัด มันจัด ที่อาจทำให้คุณแม่ไม่สบายตัวได้ รวมถึงอาหารที่ให้พลังงานสูงแต่ไม่ได้ให้ประโยชน์ ก็จะทำให้น้ำหนักของคุณแม่เพิ่มขึ้นได้ง่ายแบบไม่จำเป็น ดังนั้นอาหารที่ไม่มีประโยชน์จึงควรเว้นเช่นกัน
เลี่ยงอาหารที่รับประทานแล้วท้องผูก
เนื่องจากคุณแม่ตั้งครรภ์มักมีอาการท้องผูกได้ง่าย การรับประทานอาหารที่มีกากใยน้อย อาหารจำพวกชา-คาเฟอีน มักเป็นต้นเหตุให้เกิดอาการท้องผูกได้ง่ายจึงควรงด และรับประทานผักผลไม้ให้มากแทน หรือหากไม่ว่าอย่างไรคุณแม่ก็ยังมีอาการท้องผูกสามารถใช้ผงไฟเบอร์ที่ได้รับการอนุมัติจากอย.และปลอดภัยเพื่อช่วยบรรเทาอาการได้
ห้ามรับประทานอาหารดิบ หรืออาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ
อาหารดิบหรือกึ่งสุกกึ่งดิบมีความเสี่ยงมากมายที่คุณแม่ตั้งครรภ์ไม่ควรเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงโดยไม่จำเป็น เช่น เนื้อสัตว์กึ่งสุกกึ่งดิบอาจเป็นแหล่งตัวอ่อนของพยาธิ ทำให้คุณแม่มีความเสี่ยงที่จะรับตัวอ่อนพยาธิเข้าไปในร่างกาย ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่ผลดีต่อทารกในครรภ์แน่ ๆ นอกจากนี้อาหารกึ่งสุกกึ่งดิบยังมีความเสี่ยงของการปนเปื้อนเชื้อโรคที่อาจทำให้เกิดโรคต่าง ๆ ตามมา เช่น อาหารเป็นพิษ ฯลฯ คุณแม่ตั้งครรภ์จึงควรระมัดระวังเป็นพิเศษ
ห้ามรับประทานยาจีน สมุนไพร เครื่องดื่มชูกำลัง
ดอกคำฝอย และสมุนไพรที่มีฤทธิ์เย็น/บำรุงเลือด เนื่องจากสมุนไพรหลายชนิดเป็นยาขับเลือดและเป็นอันตรายกับครรภ์ของคุณแม่ การรับประทานเมื่อมีความจำเป็นควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญหรือแพทย์เท่านั้น
Credit: Unsplash
ข้อห้ามเรื่องไลฟ์สไตล์ แฟชั่น และการออกกำลังกาย
นอกจากความปลอดภัยและอาหารการกินแล้ว คุณแม่ยังควรดูแลเรื่องไลฟ์สไตล์ของตัวเองที่อาจต้องเปลี่ยนไปเพื่อความปลอดภัยต่อทารกในครรภ์ เช่น
ห้ามยืนและนอนเป็นเวลานาน
การที่คุณแม่อายุครรภ์เกิน 20 สัปดาห์ขึ้นไปยืนหรือนอนเป็นเวลานานจะทำให้น้ำหนักครรภ์กดทับกระเพาะอาหารและลำไส้บางจุดเป็นเวลาน ทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ เช่น จุกเสียด แน่นท้อง ปวดเมื่อยตามร่างกาย หรือบวม ได้
ห้ามอบไอน้ำ/อบซาวน่า
จริงอยู่ที่การไปอบไอน้ำหรือซาวน่าทำให้ร่างกายสดชื่อนกะปรี้กะเปร่า แต่ก็ทำให้ร่างกายของคุณแม่ขาดน้ำและเกลือแร่ที่จำเป็นจนอาจทำให้เส้นเลือดอุดตัน และมีเลือดไปเลี้ยงทารกได้น้อยลง จนอันตรายถึงขั้นแท้งได้
ห้ามทำความสะอาดมูลแมว
แม้ว่าจะดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่การทำความสะอาดมูลแมวและคุณแม่ตั้งครรภ์นั้นมีความเสี่ยงไม่น้อยเลย เนื่องจากมูลแมวจะมีปรสิตที่เป็นพาหะนำโรค ซึ่งจะทำให้เกิดการติดเชื้อที่ทำให้ลูกน้อยเกิดความผิดปกติถึงขั้นเสียชีวิตได้ ดังนั้นจึงควรเลี่ยงไปก่อน
Credit: Unsplash
การตั้งครรภ์กับคุณผู้หญิงนั้นเป็นเรื่องใหญ่ ไม่ว่าใครต่างก็ต้องการตั้งครรภ์อย่างราบรื่นและปลอดภัย ดั้งนั้นอย่าละเลยเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ดูเหมือนไม่เป็นอะไร และการปฏิบัติตามข้อห้ามที่คนท้องต้องรู้ก็เป็นไกด์ไลน์แบบคร่าว ๆ ให้คุณแม่ได้ลองนำไปสังเกตและระมัดระวังตัวกันได้ในระดับหนึ่งเลย