ท้องแตกลายระหว่างตั้งครรภ์ รู้ทัน ป้องกันได้

ท้องแตกลายระหว่างตั้งครรภ์ รู้ทัน ป้องกันได้
ตั้งครรภ์

Last Updated on 2023 07 11

เมื่อพูดถึงรอยแตกลาย (Striae distensae / Striae gravidarum) สำหรับผู้หญิงแล้ว สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาเลยค่ะ ตั้งแต่เริ่มเข้าสู่วัยรุ่นที่ร่างกายมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ช่วงที่ร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงน้ำหนักอย่างกะทันหัน โดยเฉพาะระหว่างตั้งครรภ์ หรือหลังคลอด ซึ่งเส้นรอยแตกลายนี้มักเกิดขึ้นบริเวณผิวหนังที่มีชั้นไขมันเป็นจำนวนมาก เช่น ท้อง หน้าอกช่วงบน ต้นแขน ต้นขา และก้น แต่รอยแตกลายไม่มีอันตรายนะคะ ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีใครอยากให้มันปรากฎขึ้นบนผิวของเราอย่างแน่นอน วันนี้จึงได้รวบรวมวิธีป้องกันท้องแตกลายระหว่างตั้งครรภ์มาให้คุณแม่ได้อ่านเพื่อเตรียมรับมือกันค่ะ

ผิวแตกลาย เป็นอย่างไร

รอยแตกลายมักจะปรากฏเป็นแถบเส้นขนานบนผิวหนัง เส้นเหล่านี้จะมีสีและเนื้อสัมผัสที่แตกต่างจากผิวปกติ อาจมีสีน้ำตาล สีม่วง สีแดง สีชมพูสดใส หรือจนกลายเป็นสีขาวซีด เมื่อลองสัมผัสรอยแตกลายด้วยนิ้ว จะรู้สึกว่าเป็นสันหรือรอยบุ๋มบนผิวหนัง บางครั้งรอยแตกลายจะทำให้รู้สึกคันหรือเจ็บได้ด้วยค่ะ ทั้งนี้ ผิวแตกลายมี 2 ระดับ ดังนี้

ผิวแตกลายระยะเริ่มต้น (Striae Rubra)

จะมีลักษณะเป็นเส้นนูนสีแดง หรือ ในบางคนเป็นสีแดงจนกลายเป็นม่วงเข้ม อาจมีอาการแสบหรือคันร่วมด้วยในช่วงแรก

ผิวแตกลายระยะสุดท้าย (Striae Alba)

เป็นระยะที่ผิวแตกลายแดงหรือม่วงคล้ำมีสีจางลงกลายเป็นสีขาว ร่วมกับภาวะที่ผิวหนังบางลง มีร่อง และมีริ้วรอยเกิดขึ้น ซึ่งระยะนี้อาจจะดูแลให้ผิวกลับมาสวยเหมือนเดิมยากพอสมควรค่ะ

ท้องแตกลายระหว่างตั้งครรภ์เกิดจากอะไร

ท้องแตกลายในคุณแม่ตั้งครรภ์มีสาเหตุมาจาก 2 ปัจจัยหลักค่ะ

เป็นลักษณะเฉพาะของคนท้อง

คุณแม่จะมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดท้องแตกลาย เมื่อการตั้งครรภ์เข้าสู่ช่วงปลายไตรมาสที่ 2  ต้นไตรมาสที่ 3  (อายุครรภ์ 6 – 7 เดือน) เพราะมดลูกมีการขยายขนาดอย่างรวดเร็วในช่วงนี้ ทำให้เกิดการฉีกขาดของผิวหนังชั้นหนังแท้ที่อยู่ลึกลงไปบริเวณหน้าท้อง จึงมองเห็นเส้นเลือดที่อยู่ในชั้นลึกลงไปเป็นลายเข้ม ต่อมาเมื่อเส้นเลือดหดตัวจึงเห็นพื้นที่ขาวมากขึ้น หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ ผิวหนังของเราปรับตัวไม่ทันกับการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วของร่างกายจึงเป็นผลให้ผิวหนังเกิดการฉีกขาดนั่นเองคะ

เกิดจากฮอร์โมนการตั้งครรภ์

ผู้เชี่ยวชาญให้ความเห็นว่า ท้องแตกลายเกิดจากฮอร์โมนการตั้งครรภ์ที่ไปดึงดูดเอาน้ำเข้าสู่ผิวของคุณแม่มากขึ้น ส่งผลให้เกิดการคลายตัวของเส้นใยคอลลาเจนใต้ชั้นผิวหนัง ดังนั้นเมื่อผิวหนังบริเวณท้องยืดขยายออกจึงเกิดการฉีกขาดและเป็นรอยแตกลายได้ง่ายขึ้นค่ะ

วิธีป้องกันผิวแตกลายระหว่างตั้งครรภ์

เมื่อทราบถึงสาเหตุของการเกิดท้องแตกลายแล้วคุณแม่หลายคนก็คงเกิดความกังวลใจ เรามาดูวิธีดูแลตัวเองเบื้องต้นเพื่อลดโอกาสการเกิดผิวแตกลายขณะตั้งครรภ์กันดีกว่าค่ะ

ควบคุมน้ำหนักตัว

สิ่งที่สำคัญที่สุดในการป้องกันรอยแตกลายไม่ว่าสาว ๆ จะตั้งครรภ์หรือไม่ก็ตาม คือการรักษาระดับน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ค่ะ เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจนผิวหนังปรับตัวไม่ทัน ส่งผลให้เมื่อเราน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เรามักจะสังเกตเห็นผิวแตกลายหลังจากน้ำหนักตัวได้ลดลง

ดื่มน้ำให้เพียงพอ

ขณะตั้งครรภ์ร่างกายของเราจะต้องการน้ำมากกว่าคนทั่วไปเป็นทุนเดิมอยู่แล้วค่ะ การดื่มน้ำที่เพียงพอจะช่วยทำให้ผิวมีความชุ่มชื้นและอ่อนนุ่ม ดังนั้นคุณแม่ตั้งครรภ์ควรดื่มน้ำอย่างน้อย 2.5 ลิตร /วัน เพื่อลดแนวโน้มของการเกิดผิวแตกลายได้ค่ะ และไม่ควรดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น กาแฟ เพราะจะไปเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดรอยแตกลายได้ หากคุณแม่ไม่สามารถงดดื่มกาแฟได้ ก็อย่าลืมปรับสมดุลการดื่มน้ำให้มากขึ้นด้วยนะคะ

เลี่ยงการอาบน้ำอุ่น

น้ำอุ่นที่มีอุณหภูมิสูงเกินไปจะชะล้างน้ำมันที่อยู่บนผิวออกไปจนหมด ส่งผลให้ผิวขาดความชุ่มชื้น แห้งลอก และทำให้ผิวแตกลายได้ง่าย แต่หากคุณแม่อยากอาบน้ำอุ่นจริง ๆ เพราะทำให้รู้สึกสบาย ผ่อนคลาย ก็ควรทาโลชั่นป้องกันให้กับผิวทุกครั้งหลังอาบน้ำด้วยนะคะ

อาหารผิว

คุณแม่ท้องควรทานอาหารที่มีประโยชน์ และหลากหลาย หมวดของโปรตีนอย่าให้ขาดเพราะเป็นหมวดที่สำคัญในการเสริมสร้าง และช่วยซ่อมแซม นอกจากนี้ยังควรทานสารอาหารที่มุ่งเน้นในการดูแลเส้นใยคอลลาเจนและอีลาสตินในผิวหนังด้วยค่ะ เพราะมีความจำเป็นต่อการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วของผิว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเส้นใยคอลลาเจนและอีลาสตินมีความแข็งแรงมากเท่าไหร่ โอกาสที่ผิวหนังจะแตกตัวและทิ้งรอยแตกลายก็จะยิ่งน้อยลงเท่านั้น อาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินอี วิตามินซี สังกะสีและซิลิกา จะเป็นสารอาหารที่ช่วยสร้างคอลลาเจน วิตามินซีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญที่ช่วยปกป้องเนื้อเยื่อจากความเสียหายได้ และทั้งวิตามิน B2 (ไรโบฟลาวิน) และบี 3 (ไนอาซิน) ยังช่วยส่งเสริมและรักษาสุขภาพผิวอีกด้วยค่ะ

สัมผัสแสงแดด

มีงานวิจัยชิ้นหนึ่ง พบความสัมพันธ์ระหว่างวิตามินดีในร่างกายต่ำกับการเกิดผิวแตกลาย จึงชี้ให้เห็นว่าหากรักษาระดับวิตามินดีในร่างกายให้เพียงพอจะช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดรอยแตกลายได้ ดังนั้นวิธีที่ง่ายที่สุดในการเพิ่มวิตามินดีให้แก่คุณแม่ตั้งครรภ์ คือ การออกไปสัมผัสกับแสงแดด โดยช่วงเวลาที่เหมาะสมในการรับแสงแดด คือตั้งแต่ 08.00 – 10.00 น. และ 15.00 – 17.00 น. เป็นช่วงเวลาที่แดดไม่แรงและไม่เป็นอันตรายต่อผิวหนังมากเกินไป ซึ่งเวลาเพียง 30 นาทีที่ผิวหนังของคุณแม่ได้เปิดรับแสงแดดเข้าสู่ร่างกาย จะสามารถสร้างวิตามินดีให้กับร่างกายได้ถึง 200 ยูนิตเลยทีเดียวค่ะ

ออกกำลังกาย

การออกกำลังกายสำหรับคนท้องมีข้อดีหลายอย่างเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเพิ่มระดับพลังงาน ลดอารมณ์แปรปรวน ช่วยปรับการนอนหลับ เสริมสร้างความแข็งแรงให้ร่างกายในการรับน้ำหนักที่เพิ่มมากขึ้น และที่สำคัญคือ ช่วยป้องกันรอยแตกลาย เพราะการออกกำลังกายนั้นจะช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ส่งผลให้ผิวมีความยืดหยุ่นและปรับตัวรองรับร่างกายที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วได้ดีขึ้น และยังช่วยลดความเสี่ยงในการเส้นเลือดขอดและข้อเท้าบวมในการตั้งครรภ์ได้อีกด้วย แต่ก็ควรอยู่ในความดูแลของผู้เชี่ยวชาญและคุณหมอด้วยนะคะ

นวดบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น

นอกจากการรับประทานอาหารที่เหมาะสม และการออกกำลังกายอย่างเพียงพอแล้ว คุณแม่ก็ยังสามารถใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับทาเฉพาะจุดเพื่อช่วยนวดบริเวณที่มีความเสี่ยงที่จะเกิดรอยแตกลายได้ด้วยค่ะ เพราะนักวิจัยบางกลุ่มบอกว่าอาจไม่ใช่ส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ที่ไปปกป้องผิวไม่ให้เกิดรอยแตกลาย แต่เป็นการนวดเบา ๆ บริเวณจุดนั้นต่างหากที่ช่วยให้ผิวเพิ่มความยืดหยุ่น และปรับตัวได้ดีขึ้น แต่ถึงอย่างไรก็ตามคุณแม่ควรเลือกผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ปราศจากวิตามินเอสำหรับคนท้องโดยเฉพาะ ได้แก่ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ เช่น ครีมที่มีส่วนผสมของ โกโก้บัตเตอร์ อาแกนออยล์ วิตามินอี เชียร์บัตเตอร์ ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้แก่ผิว ให้ผิวมีความยืดหยุ่นสามารถรองรับการขยายตัวของหน้าท้องอย่างรวดเร็วได้ และยังมีความปลอดภัยต่อทารกในครรภ์ด้วยค่ะ

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
10 ครีมลดรอยแตกลาย ยี่ห้อไหนดี

รอยแตกลายเกิดแล้ว รักษาได้ไหม

รอยแตกลายเกิดขึ้นแล้วรักษาให้จางหายนั้นอาจต้องใช้เวลานาน และเสียค่าใช้จ่ายค่อนข้างเยอะค่ะ ซึ่งการรักษาส่วนใหญ่ก็มุ่งเน้นไปที่การลดรอยแตกลายเก่าให้จางลงให้มากที่สุด แต่ไม่รับประกันว่าจะไม่เกิดรอยแตกลายใหม่ขึ้นอีก วิธีการรักษาผิวแตกลาย มีดีงนี้

  • การทาครีมที่มีส่วนผสมของเรตินอยส์ (Retinoid) ที่มาจากวิตามินเอแต่ไม่ควรใช่ครีมนี้ระหว่างที่ตั้งครรภ์และให้นมบุตร
  • การเลเซอร์ผิวที่จะไปช่วยกระตุ้นคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ผิวหนัง
  • ทาครีมที่มีกรดไกลโคลิก (Glycolic) เพื่อทำให้รอยแตกลายจางลง

ช่วงตั้งครรภ์หากคุณแม่ควบคุมน้ำหนักตัวได้ดี ไม่เพลิดเพลินในการทานมากเกินไป งดเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน และนวดทาครีมบ่อย ๆ ทุกครั้งที่รู้สึกคันบริเวณผิวหนังน่าจะเป็นตัวช่วยที่ดีเลยค่ะ เพราะแม่กิฟท์เองก็ทำอย่างนั้น ตอนแรกก็เป็นกังวลเหมือนกัน เพราะทราบมาว่าผิวแตกลายอาจมาจากพันธุกรรมได้ด้วย แต่ก็รอดพ้นจากท้องแตกลายระหว่างตั้งครรภ์มาได้อย่างสวยงามค่ะ


Mommy Gift

157,076 views

แม่น้องสปิน คุณแม่ฟูลไทม์ ที่เชื่อเรื่องการเลี้ยงลูกแบบธรรมชาติอย่างสมดุลทั้งภายใน-ภายนอก และเชื่อว่าลูกคือครู จึงทําให้สนใจความเป็นไปของผู้คน จิตวิทยาความสัมพันธ์ในครอบครัว และความสัมพันธ์ของมนุษย์กับธรรม(ะ)ชาติ ชื่นชอบการทำอาหาร งาน Handmade อ่านหนังสือ ปลูกต้นไม้ Facebook : Gift Bfive IG : spin_ramil

Profile

Pickup posts

Related posts

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

Save