มีคุณแม่หลาย ๆ คนที่คลอดลูกด้วยวิธีการผ่าตัด แม่โน้ตก็ผ่าตัดคลอดค่ะ เพราะตอนนั้นมีอาการครรภ์เป็นพิษค่ะ โดยหลังจากออกจากห้องผ่าตัด พอยาชาเริ่มหมดฤทธิ์เราก็เริ่มปวดแผลที่ผ่าคลอด แต่สามารถขอยาบรรเทาอาการปวดจากคุณหมอได้ค่ะ วันนี้แม่โน้ตจะมาไขข้อข้องใจเกี่ยวกับว่าแผลผ่าคลอดกี่วันหาย และดูแลแผลผ่าคลอดอย่างไรให้เรียบสวย
ลักษณะของแผลผ่าคลอด
โดยทั่วไปแล้วทุกคนที่ได้เข้ารับการผ่าตัด ไม่แต่เฉพาะคุณแม่ตั้งครรภ์ก็จะมีรอยแผลผ่าอยู่แล้ว ซึ่งมักจะปรากฎเป็นแผลเย็บยาว 4 – 6 นิ้ว ตามแนวนอนของกางเกงชั้นใน หรืออาจเป็นแนวตั้งใต้สะดือ (C-Section หรือ Cesarean Section) ขึ้นอยู่กับการลงแผลตอนผ่าคลอด
ในช่วงสัปดาห์แรกหลังผ่าคลอด ผิวชั้นนอกของแผลจะเริ่มติดกันแล้วจะค่อย ๆ เริ่มปิดสนิท จากนั้นจะเปลี่ยนเป็นสีแดงอมม่วง ซึ่งจะมีลักษณะเช่นนี้อยู่ประมาณ 6 เดือน ก็จะค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีขาวและเรียบขึ้น ส่วนแผลที่ลึกลงไปในชั้นของกล้ามเนื้อท้องและมดลูกจะต้องใช้เวลานานซักหน่อยหลายเดือนอยู่ค่ะถึงจะหายดี แต่ก็มีบางครั้งนะคะเวลาที่เราเผลอลุกเร็ว ๆ มันก็จะมีเสียวแปล๊บ ๆ แต่ไม่มากค่ะ
ทั้งนี้ ก็จะมีคุณแม่บางรายค่ะที่แผลอาจเป็นคีลอยด์ แต่ก็พบได้ไม่มากนัก
ปัญหาของแผลผ่าตัดที่มักพบบ่อย
- แผลเป็นที่นูนแดงขึ้นมานั้นกลายเป็นแผลเป็นที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ หรือเรียกกันว่า “คีลอยด์ (Keloid)”
- แม้ผ่าตัดคลอดมานานกว่า 1 ปี หรือ 1 ปีครึ่งแล้ว แผลเป็นนั้นก็ยังนูนแดงอยู่ แดงนาน และไม่มีทีท่าว่าจะลดลง
- มีอาการเจ็บ หรือ/และ คัน
- แม้แผลจะดูดี ไม่มีปัญหาการติดเชื้อ หรืออักเสบแต่อย่างใด เพียงแต่ไม่ได้ดูเรียบเนียน ซึ่งก็ไม่ใช่สิ่งที่คุณแม่ต้องการอยู่ดี
แผลผ่าคลอด ดูแลอย่างไรให้เรียบเนียน
สำหรับคุณแม่ที่ต้องการดูแลแผลผ่าคลอดให้เรียบเนียนสวย สามารถนำเทคนิคด้านล่างไปใช้ได้ ดังนี้ค่ะ
ขยับตัวเดิน 1 วันหลังคลอด
หลังจากที่คุณแม่ผ่าคลอดได้ 1 วัน คุณหมอและพยาบาลจะแนะนำให้เราขยับตัวเดินค่ะ แม้จะเจ็บมากแต่ก็ต้องฝืนนิดหนึ่ง เพื่อป้องกันการตกเลือด (พยาบาลบอกมา) และป้องกันการเกิดพังผืดขึ้น ซึ่งจะไปเกาะที่อวัยวะภายในช่องคลอด เสี่ยงต่อท่อนำไข่อุดตัน หรือหากตั้งครรภ์ครั้งต่อไปก็จะส่งผลให้ผ่าตัดคลอดนั้นทำได้ยากมากขึ้น หรือมีอาการท้องผูกเรื้อรัง
ใช้ผ้ารัดหน้าท้อง
การใช้ผ้ารัดหน้าท้องก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการพยุงกล้ามเนื้อส่วนหลังขณะที่คุณแม่เดิน และสามารถบรรเทาอาการเจ็บได้อีกด้วย
ปิดแผลผ่าตัดไว้
ในช่วงแรก ๆ คุณหมอจะปิดปากแผลผ่าคลอดเอาไว้ด้วยพลาสเตอร์กันน้ำ ดังนั้น จึงไม่มีการล้างแผลเป็นเวลา 7 วัน ไม่อย่างนั้นอาจทำให้แผลเปียก เกิดการติดเชื้อ และอักเสบได้ นั่นหมายความว่าในเวลา 7 วันนี้ คุณแม่ต้องเช็ดตัวไปก่อนนะคะ มาตอนนี้แม่โน้ตกลายเป็นคนไม่อยากอาบน้ำเลยค่ะ 5555 หยอก ๆ
ทานอาหารจำพวกโปรตีน
เพราะโปรตีนมีส่วนช่วยในการสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง และซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่เสียหายจากการผ่าตัดคลอด แต่ก็ไม่ควรกินมากเกินไปนะคะ
ห้ามยกของหนัก
โดยเฉพาะในช่วง 3 เดือนแรกหลังคลอด สามารถขยับตัวได้เท่าที่ไม่รู้สึกเจ็บ เพราะถ้ามีอาการเจ็บหรือตึงที่แผลแสดงว่าแผลมีการเหยียดยืดมากไป สิ่งนี้จะทำให้ร่างกายปรับสภาพเพราะกลัวว่าแผลจะเปิด จึงมีการสร้างเส้นใยคอลลาเจนออกมามาก เพื่อทำให้แผลแน่นขึ้น หนาขึ้น ซึ่งก็จะกลายเป็นคีลอยด์ได้นั่นเองค่ะ
หลังแผลแห้ง เปิดแผลได้
หากเปิดแผลมาแล้ว พบว่ามีแผลเป็นให้คุณแม่ใช้ครีมที่มีส่วนผสมของเสตียรอยด์อ่อน ๆ หรือครีมที่มีส่วนผสมของวิตามินอี ทาบาง ๆ บริเวณแผล ไม่มีผลต่อน้ำนมแม่นะคะ เพราะเป็นยาใช้ภายนอก
ยกหัวนอนให้สูงขึ้น
แบบนี้จะช่วยให้แผลผ่าไม่ตึงเกินไป ลดอาการเจ็บเสียดที่แผลได้
หมั่นเดินบ่อย ๆ
เพื่อป้องกันการเกิดภาวะเลือดอุดตันที่ขา คุณแม่ควรเดินออกกำลังช้า ๆ เท่าที่ไม่เจ็บแผลนะคะ
ใช้แผ่นซิลิโคนใสปิดแผล
ตามคำแนะนำการดูแลแผลเป็นของ The International Clinical Guidelines for Scar Management 2002 ระบุว่า สามารถใช้แผ่นซิลิโคนใสสำหรับแผลเป็นที่มีสีแดง หรือคล้ำ หรือนูนได้ เพื่อเป็นการปรับสีของแผลให้จางลง และแบนราบลง แต่ควรใช้กับแผลที่ปิดสนิทแล้วหรือแผลหลังตัดไหมใหม่ ๆ โดยการนำแผ่นนี้ไปปิดทับบริเวณที่นูนแดงให้นานกว่า 12 ชั่วโมงต่อวัน
ใช้การฉีดยา
ตามคำแนะนำการดูแลรอยแผลเป็นของ The International Clinical Guidelines for Scar Management 2002 ระบุว่าสามารถใช้การฉีดยาคอร์ติโคสตีรอยด์ (Intra lesional corticosteroid) ได้ ภายใต้การดูแลควบคุมของคุณหมอทุกครั้ง ซึ่งก็จะช่วยให้แผลเป็นนูนแดงนั้นแบนราบลงได้
นวดกระตุ้นบริเวณแผล
เป็นการนวดกระตุ้นให้แผลนุ่มขึ้น แต่ควรใช้คู่กับมอยส์เจอร์ไรเซอร์ หรือโลชั่นก็จะทำให้แผลเป็นนุ่มเร็วขึ้น แต่ควรระวังขณะนวดต้องไม่ให้แผลเปิด หรือแผลปรินะคะ ส่วนในรายที่แพ้โลชั่นควรหยุดทันที แล้วปรึกษาคุณหมอค่ะ
การคลอดลูกด้วยวิธีผ่าคลอดจะต้องใช้ระยะเวลาในการดูแลรักษาที่นานกว่าคุณแม่ที่คลอดด้วยวิธีธรรมชาติอยู่แล้ว เพียงแต่คุณแม่ต้องไม่เผลอลุกเร็ว หรือเผลอยกของ ทำอะไรก็ค่อยเป็นค่อยไป ตั้งสติก่อนสตาร์ท เท่านี้ก็จะช่วยให้แผลผ่าคลอดของคุณแม่เรียบเนียนสวยได้แล้วล่ะค่ะ
Credit ข้อมูล : ชมรมจิตแพทย์เด็กและวัยรุ่นแห่งประเทศไทย, The International Clinical Guidelines for Scar Management 2002, นพ.ธรรมนูญ พนมธรรม ศัลยแพทย์ตกแต่ง โรงพยาบาลราชวิถี, pobpad.com,