5 ภาวะแทรกซ้อนขณะตั้งครรภ์ แม่ท้องพึงระวัง
ทันทีที่รู้ว่าตั้งครรภ์ เชื่อว่าคุณแม่หลายคนอาจจะทั้งดีใจปนกังวลใจ เพราะด้วยระยะเวลาในการอุ้มท้อง 9 เดือน เราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าสุขภาพของทั้งคุณแม่และลูกน้อยจะเป็นอย่างไร ซึ่งหนึ่งในสิ่งที่คุณแม่หลายคนกังวลคงหนีไม่พ้นเรื่องของ “ภาวะแทรกซ้อนขณะตั้งครรภ์” เพราะไม่เพียงแค่อันตรายต่อสุขภาพร่างกายของคุณแม่ แต่ยังอันตรายกับลูกน้อยในครรภ์อีกด้วย หรือที่หลาย ๆ คน รู้จักกันดีในชื่อของ ‘ครรภ์เป็นพิษ’ หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อย่างไรก็ตามภาวะแทรกซ้อนขณะตั้งครรภ์มีทั้งระดับที่รุนแรงและไม่รุนแรง ขึ้นอยู่กับภาวะที่เกิดขึ้นกับคุณแม่ ดังนั้น วันนี้เรามาทำความรู้จักและสังเกตุอาการของโรคกันค่ะ เพื่อป้องกันอาการรุนแรงที่อาจเกิดขึ้น และเป็นการเข้ารับการรักษาได้อย่างทันท่วงที
การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ
เป็นโรคที่พบบ่อยในคุณแม่ตั้งครรภ์ สาเหตุเกิดจากขณะตั้งครรภ์มดลูกจะมีการขยายใหญ่ขึ้นทำให้ไปดันบริเวณกระเพาะปัสสาวะส่งผลให้คุณแม่ปัสสาวะได้ไม่ดีมีการค้างของปัสสาวะนาน ทำให้คุณแม่มีอาการปัสสาวะติดขัดและเกิดการอักเสบในเวลาต่อมา ซึ่งเป็นผลมาจากการติดเชื้อจากแบคทีเรียบริเวณปากช่องคลอดหรือทวารหนักใกล้ท่อปัสสาวะ
อาการของโรคเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ
-
- ปัสสาวะบ่อยและปัสสาวะได้น้อย กะปิดกะปอยเหมือนปัสสาวะไม่สุด
- ขณะปัสสาวะมีอาการแสบหรือระคายเคืองบริเวณอวัยวะเพศ
- มีอาการปวดหน่วงๆ บริเวณท้องน้อย กดแล้วรู้สึกเจ็บ เหมือนจะคลอด
- ปัสสาวะมีกลิ่นเหม็น มีเลือดปน หรือสีปัสสาวะขุ่นช่วงตั้งครรภ์
- มีอาการหนาวสั่น ไข้สูง ปวดบริเวณบั้นเอวหรือหลัง
โรคโลหิตจาง
ภาวะโลหิตจางระหว่างตั้งครรภ์เป็นภาวะที่คุณแม่หลาย ๆ คนต้องเผชิญ หากในขณะตั้งครรภ์คุณแม่ตรวจพบค่าฮีโมโกลบินต่ำกว่า 10 กรัมต่อเดซิลิตร ถือว่าคุณแม่เกิดภาวะโลหิตจางขณะตั้งครรภ์ สาเหตุที่พบบ่อยของการเกิดภาวะนี้คือ การขาดธาตุเหล็ก ซึ่งธาตุเหล็กเป็นส่วนประกอบสำคัญในการสร้างเม็ดเลือดแดง นอกจากนี้ยังมีสาเหตุอื่นเช่น จากการสูญเสียเลือดเรื้อรังจากการเป็นประจำเดือนก่อนการตั้งครรภ์ พันธุกรรมจากโรคธาลัสซีเมีย ขาดกรดโฟลิก โรคไต โรคเอสแอลอี (SLE) เป็นต้น
อาการของโรคโลหิตจาง
- วิงเวียนศีรษะ หน้ามือ ใจสั่นและเหนื่อยง่าย
- เป็นลมง่าย อ่อนเพลีย ง่วงบ่อย
- หมดแรง เบื่ออาหาร
ภาวะไทรอยด์เป็นพิษ
ภาวะไทรอยด์เป็นพิษ หรือ ภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนสูง (Hyperthyroidism) คือ ภาวะที่ระดับฮอร์โมนไทรอยด์ฮอร์โมนสูงกว่าปกติ ซึ่งพบอัตราการเกิดมากกว่าภาวะระดับไทรอยด์ฮอร์โมนต่ำกว่าปกติ ซึ่งภาวะนี้พบได้ประมาณร้อยละ 0.05-0.2 เนื่องจาการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนขณะตั้งครรภ์ รวมถึงความต้องการไอโอดีนสำหรับทารกในครรภ์ที่เพิ่มขึ้น ทำให้การทำงานและหลั่งฮอร์โมนของต่อมไทรอยด์เปลี่ยนไป ภาวะไทรอยด์เป็นพิษอาจทำให้คุณแม่คลอดลูกน้อยก่อนกำหนด เกิดภาวะแท้ง และหัวใจวายได้
สามารถติดตามอ่านข้อมูลเกี่ยวกับฮอร์โมนคนท้องได้ที่นี่
อาการของโรคภาวะไทรอยด์เป็นพิษ
- กินเก่ง กินจุ น้ำหนักลดแม้จะรับประทานอาหารอย่างเพียงพอ
- ท้องเสียง่าย ใจสั่น ใจหวิว มือสั่น
- ชีพจรเต้นเร็วแม้ในขณะนอนพัก อัตราการเต้นของหัวใจมากกว่า 100 ครั้ง/นาที
- อ่อนเพลีย ร้อนง่าย เหงื่อออกมาก อารมณ์แปรปรวน
- ต่อมไทรอยด์โตทั่ว ๆ
- ตาโปนจะพบได้ใน Graves’ disease
โรคความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์
อีกหนึ่งภาวะที่มักเกิดขึ้นบ่อยกับคุณแม่ขณะตั้งครรภ์ เป็นภาวะที่คุณแม่ตั้งครรภ์มีความดันโลหิตในขณะหัวใจบีบตัว (Systolic blood pressure; SBP) มากกว่าหรือเท่ากับ 140 มิลลิเมตรปรอทขึ้นไป และ/หรือตรวจพบค่าความดันโลหิตในขณะหัวใจคลายตัว (Diastolic blood pressure; DBP) มีค่ามากกว่าหรือเท่ากับ 90 มิลลิเมตรปรอท มักเกิดขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ 20 ขึ้นไปของการตั้งครรภ์ และเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตของคุณแม่ตั้งครรภ์ ซึ่งสาเหตุของความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์ยังไม่ทราบแน่ชัด แต่สันนิษฐานว่าอาจเกิดจากการพัฒนาของรกที่ผิดปกติหรือเกิดการหดรัดตัวของหลอดเลือดแดง ทำให้ความดันโลหิตสูงตามมา
อาการของโรคความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์
- ปวดศีรษะมาก การมองเห็นผิดปกติได้แก่มีแสงวาบ ตาพร่ามัว
- จุกแน่นลิ้นปี่หรือปวดบริเวณชายโครงขวา
- น้าหนักเพิ่มขึ้นมาก
- บวมที่ใบหน้าและมือ
- ปวดเกร็งท้อง เลือดออกทางช่องคลอด
- ความดันโลหิตมากกว่า 140/90 มิลลิเมตรปรอท
- คลื่นไส้อาเจียน ปัสสาวะออกน้อยลง
- ลูกดิ้นน้อยลง
โรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์
เป็นอีกหนึ่งภาวะแทรกซ้อนที่สามารถเกิดขึ้นขณะตั้งครรภ์ทุกระยะ อันตรายทั้งต่อคุณแม่ตั้งครรภ์และทารกในครรภ์ ส่วนใหญ่มักถูกวินิจฉัยในช่วงสัปดาห์ที่ 24-28 ของการตั้งครรภ์ สาเหตุเกิดจากภาวะที่ร่างกายมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ โดยที่ร่างกายจะไม่สามารถนำน้ำตาลไปใช้ได้เนื่องจากไม่สามารถผลิตฮอร์โมนอินซูลิน (Insulin) ได้เพียงพอ ส่งผลให้มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงผิดปกติ
ปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคมาจากหลายสาเหตุเช่นคุณแม่มีน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วน, เคยเป็นโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์มาก่อนในครรภ์ก่อนหน้าม สมาชิกในครอบครัวเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2, โรคถุงน้ำในรังไข่หลายใบ Polycystic Ovary Syndrome เป็นต้น
อาการของโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์
- รู้สึกหิวกระหายน้ำมากกว่าปกติ
- ปัสสาวะบ่อยกว่าปกติ
- รู้สึกเหนื่อย อ่อนเพลีย
ภาวะแทรกซ้อนขณะตั้งครรภ์เป็นภาวะที่สามารถเกิดขึ้นได้กับคุณแม่ทุกคนขณะตั้งครรภ์ลูกน้อย ซึ่งอันตรายและความรุนแรงอาจเกิดอยู่กับแต่ละภาวะและปัจจัยอื่นร่วม ดังนั้น ขณะตั้งครรภ์คุณแม่ควรเข้ารับการตรวจวินิจฉัย คัดกรอง และได้รับคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างสม่ำเสมอ หรือหากพบว่ามีภาวะแทรกซ้อนขณะตั้งครรภ์ควรได้รับการรักษาที่ทันเวลาและถูกวิธี เพื่อป้องกันอันตรายจากภาวะแทรกซ้อนทั้งต่อคุณแม่และทารกในครรภ์นะคะ