โลกใหม่ในใบเดิม สไตล์นิว นอร์มอล ในปัจจุบัน แม้แต่การท่องเที่ยวยังเน้นไปที่เรื่องของสุขภาพ ความรับผิดชอบต่อชีวิตเพื่อนมนุษย์ และสังคม โดยเฉพาะสถานที่ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่มีอยู่ในประเทศไทยเรานั้น มีอยู่มากมายหลายแห่งด้วยกัน ซึ่งสร้างความสนใจให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
สถานที่ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ คืออะไร สำคัญอย่างไร
สถานที่ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness & Health Tourism) คือ สถานที่ท่องเที่ยวทั้งทางธรรมชาติ และทางวัฒนธรรมที่มุ่งเน้นในด้านการส่งเสริมสุขภาพ และความรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งนับว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งยวดในสถานการณ์ปัจจุบัน โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของไทย ที่พบว่ามีอยู่มากมายหลายแห่ง กระจายตัวกันอยู่ทั่วประเทศ จึงเป็นที่จับตามองของบรรดานักท่องเที่ยวที่รักษ์สุขภาพ และหลงใหลในศิลปวัฒนธรรมเป็นอย่างมาก
สถานที่ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ มีกี่ประเภท
โดยหลัก ๆ แล้ว แหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพจะแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะด้วยกันค่ะ
แหล่งท่องเที่ยวที่มีอยู่เดิมตามธรรมชาติ
ที่ได้รับการปรับปรุงพื้นที่ให้ดูงดงาม สะดวก และเหมาะสำหรับพักผ่อนหย่อนใจ และปลอดภัยต่อสุขภาพชีวิตของผู้คนมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น จุดชมวิวทิวทัศน์ สถานที่ตั้งแคมป์ สถานที่เดินป่าชมธรรมชาติ แหล่งน้ำตก จุดชมวิวทางทะเล และหมู่เกาะต่าง ๆ เป็นต้น
แหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น
มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างเสริมสุขภาพ และดูแลคุณภาพชีวิตของผู้มาเยือนโดยเฉพาะ ยกตัวอย่างเช่น สปา ฟิตเนส ร้านอาหารเพื่อสุขภาพ สถานบริการนวดแผนไทย อบสมุนไพร ฯลฯ
วัตถุประสงค์ของการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ
สำหรับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพนั้น อาจแบ่งตามวัตถุประสงค์ของการเดินทางท่องเที่ยว ออกเป็น 2 กลุ่มด้วยกัน คือ
การท่องเที่ยวเพื่อส่งเสริมสุขภาพ
เป็นการเดินทางท่องเที่ยวเพื่อเยี่ยมชมสภานที่ต่างๆ เพื่อความผ่อนคลาย ถือเป็นการเดินทางท่องเที่ยวเพื่อพักผ่อนหย่อนใจ นั่นเอง
การท่องเที่ยวเพื่อบำบัด รักษาสุขภาพ
เป็นการเดินทางท่องเที่ยวเพื่อชทมธรรมชาติและศิลปะวัฒนธรรมอันงดงาม โดยผนวกแผนการบำบัด รักษา และตรวจสุขภาพกับโรงพยาบาลเข้าไว้ในโปรแกรมการเดินทางด้วย นั่นเอง
16 สถานที่ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่ไม่ควรพลาด
16 สถานที่ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของไทยที่ไม่ควรพลาดไปเยือน จากทุกภาคของประเทศไทย มีดังนี้
1. คลองท่อม Spa town กระบี่
บ่อน้ำพุร้อน สปาธรรมชาติ ที่อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ ที่ยังคงความเป็นธรรมชาติที่สวยสดงดงามตามแบบฉบับ Green City อย่างเต็มรูปแบบ นับเป็นสถานวารีบำบัด ที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากอีกแห่งหนึ่งเลยทีเดียว
2. เที่ยวชมวัดโพธิ์ ทัวร์แพทย์แผนไทยในกรุงเทพฯ
นอกจากจะได้เที่ยวชมศิลปะวัฒนธรรม และความงดงาม สงบ สบายใจ ของวัดโพธิ์ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นมหาวิทยาลัยเปิดแห่งแรกของไทยแล้ว ยังมีโอกาสได้บำบัดโรค ผ่อนคลายสุขภาพกับการนวดแผนไทยโบราณ จากบริเวณวัดแห่งนี้อีกด้วย
3. บ่อน้ำร้อนรักษะวาริน และบ่อน้ำร้อนพรรั้ง ที่เมืองระนอง
ทัวร์เมืองฝนแปดแดดสี่ ประตูสู่อันดามัน เที่ยวชมธรรมชาติอันงดงาม อาบอุ่นไอสุขภาพกับบ่อน้ำร้อนรักษะวาริน และบ่อน้ำร้อนพรรั้ง ชมภูมิทัศน์อันเต็มไปด้วยความรื่นรมย์ของเมืองระนองแล้ว ยังสามารถเดินทางข้ามไปเที่ยวชมหมู่เกาะมะริด ของประเทศเมียนมาร์ ได้อย่างสะดวกสบายอีกด้วย
4. บ่อน้ำร้อนห้วยหมากเลี่ยม จ. เชียงราย
นอกจากจะได้ลงแช่ในบ่อน้ำร้อนในระดับ 67 องศาเซลเซียส ที่อุดมไปด้วยแร่ฟลูออไรด์ แคลเซียม ไนเตรต และซัลเฟตแล้ว ยังมีบ้านพักตากอากาศริมน้ำกกให้แวะไปพักค้างแรม หรือจะกางเต็นท์ชมดาวอาบไอหนาวยามค่ำคืน ก็ฟินสุด ๆ
5. ชุมชนโฮมสเตย์ ที่บ้านนาต้นจั่น จ. สุโขทัย
แวะพัก ทักทายไอหนาว ในชุมชนโฮมสเตย์ ชมวิถีชีวิตแบบชาวบ้าน ปั่นจักรยานออกกำลังรอบเมือง ปีนเขาดื่มด่ำรับไอหนาวกับสายหมอกยามเช้า ชิมก๋วยเตี๋ยวพระร่วงตำรับโบราณ และเมนูอาหารสมุนไพรเพื่อสุขภาพอีกมากมาย ใช้ชีวิตช้าๆ ไปกับธรรมชาติบำบัด ที่จะช่วยเพิ่มพลังทั้งกายและใจได้เป็นอย่างดี
6. ล่องเรือเลียบคลองมหาสวัสดิ์ จ.นครปฐม
เที่ยวชมเส้นทางท่องเที่ยวเชิงเกษตร ย่านศาลายา ลองลิ้มชิมรสข้าวตังไรซ์เบอร์รี่ ล่องเรือชมนาบัวลุงแจ่ม แวะดื่มน้ำฟักข้าวเย็นๆ ที่บ้านฟักข้าวขนิษฐา ตามด้วยฟาร์มกล้วยไม้คุณสร้อย ฯลฯ วันเดียวจบ ครบครันทั้งความสุขกาย สบายใจ แถมได้สุขภาพดีๆ กลับมาเป็นพลังในวันเริ่มต้นการทำงานกันอีกครั้ง
7. อุทยานแห่งชาติตาดโตน จ. ชัยภูมิ
อุทยานแห่งชาติตาดโตน ตั้งอยู่บนเทือกเขาภูแลนคา ทางด้านทิศใต้ ในเขตพื้นที่ป่าสงวนภูแลนคา ต้นกำเนิดลำน้ำห้วยปะทาว หนึ่งในสาขาของแม่น้ำชี ที่ไหลไปหล่อเลี้ยงจังหวัดในภาคอีสานอีกหลายพื้นที่ด้วยกัน
8. สวนสุภัทราแลนด์ จ. ระยอง
ชมสวนผลไม้ ใกล้ชิดธรรมชาติ แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรอีกแห่งที่น่าสนใจ ซึ่งเจ้าของสวนผลไม้ ไม่ว่าจะเป็นทุเรียน มังคุด ลองกอง เงาะ พร้อมใจเปิดสวนให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปเยี่ยมชม และแวะชิมได้ตามชอบใจ เรียกว่า งานนี้ได้สูดอากาศดีๆ แถมฟรีผลไม้ให้อิ่มท้องอีกต่างหาก
9. จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม จ. นครราชสีมา
วิถีสโลว์ไลฟ์ในเมืองปากช่อง ชมวิถีชีวิตชาวอีสานแบบบ้าน ๆ ท่ามกลางหุบเขา และทุ่งหญ้า ธรรมชาติที่แสนจะเรียบง่าย ทว่างดงาม กับแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรกรรม การปลูกหม่อน เลี้ยงไหม นอกจากนี้ยังสามารถเลือกซื้อหาพันธุ์ไม้ ดอกไม้ และพืชผักเกษตรอินทรีย์นานาชนิด ติดมือกลับบ้านได้อีกด้วย
10. บ้านรักไทย จ. แม่ฮ่องสอน
อบอุ่นท่ามกลางไอหนาว ในหมู่บ้านที่เรียงรายกันอยู่ตามเชิงเขา คละไอหนาวและหมอกเช้ายามรุ่งสาง ให้บรรยากาศที่สดชื่น หายใจได้เต็มปอด กับสุขภาพดีๆ ที่ ต. หมอกจำแป่ วิถีชุมชนชาวจีนยูนาน ที่อาศัยอยู่ร่วมกับชาวไทใหญ่ และชาวไทยภูเขาเผ่าต่าง ๆ ที่ใจกลางหมู่บ้านจะมีแอ่งน้ำขนาดใหญ่ ที่รายล้อมด้วยบ้านดิน มุงหลังคาใบตอง และแปลงปลูกผักแบบขั้นบันไดไต่ระดับไปตามแนวชันเขา ทั้งยังมีแหล่งจำหน่ายของที่ระลึก ร้านอาหาร และที่พัก ไว้รอต้อนรับนักเที่ยวที่นิยมพักค้างแรม และอยู่กับวิถีเรียบง่ายอีกด้วย
11. อ่างเก็บน้ำซับเหล็ก จังหวัดลพบุรี
หรืออีกที่เรียกว่า ห้วยซับเหล็ก ได้รับฉายาว่าเป็น ดินแดนทะเลน้ำจืดแห่งขุนเขา ตั้งอยู่ตำบลนิคมสร้างตนเอง อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี มีเนื้อที่กว่า 1,760 ไร่ อีกหนึ่งสถานที่เหมาะกับการมาพักผ่อนหย่อนใจ อากาศดี รายล้อมด้วยธรรมชาติทั้งอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ป่าไม้ ภูเขาอันอุดมสมบูรณ์ อ่างเก็บน้ำแห่งนี้ยังรายล้อมด้วยเขาจีนแล เขาตะกร้า และ เขาพญาเดินธง อีกจุดเด่นที่เป็นเอกลั้กษณ์ของที่นี่คือมีหาดทราบเหมือนกับทะเล ปัจจุบันยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาประจำ ที่นี่ยังตั้งอยู่ระหว่างสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอื่นได้แก่ ทุ่งทานตะวัน เขาจีนแล และ ป่าสักชลสิทธิ์ อีกด้วย
12. ภูโคลน หรือ ภูโคลน คันทรีคลับ จังหวัดแม่ฮ่องสอน
ภูโคลนแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ ภูโคลน 132 ตำบลหมอกจำแป่ อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นสปาโคลนที่ดีที่สุดติดอันดับ 1 ใน 3 ของโลก อุดมไปด้วยแร่ธาตุสำคัญมากมายเช่น คลอไรน์ โปรแตสเซียม แมกนีเซียม แคลเซียม โซเดียม โบรไมน์ เป็นต้น น้ำแร่และโคลนของที่นี่มาจากแหล่งใต้ดินธรรมชาติมีความร้อนตั้งแต่ 60-140 องศาเซลเซียส ที่นี่ยังมีกิจกรรมเชิงสุขภาพให้เลือกทำมากมายเช่น การพอกหน้าด้วยโคลนธรรมชาติ การแช่เท้าและการแช่ตัวในบ่อน้ำร้อน การนวดแผนไทยหรือนวดน้ำมัน เป็นต้น อีกทั้งยังมีผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติจากโคลนและน้ำแร่อย่างอื่นจำหน่ายอีกด้วย ที่สำคัญวิวดีมาก
13. บ่อน้ำพุร้อนหินดาด จังหวัดกาญจนบุรี
อยากแช่ออนเซ็นไม่จำเป็นต้องไปไกลถึงญี่ปุ่น เพราะเมืองไทยก็มีแหล่งออนเซ็นธรรมชาติไว้ค่อยบริการ บ่อน้ำพุร้อนหินดาด ตั้งอยู่ที่ตำบลหินดาด อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี เป็นบ่อน้ำพุธรรมชาติที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาตินิยมมาแช่ตัวเพื่อผ่อนคลาย จุดเด่นของที่นี่คือเป็นบ่อน้ำแร่ธรรมชาติที่มีความสวยงามมากเป็นบ่อน้ำแร่สีฟ้า ด่นล่างยังมีตาน้ำที่ไหลผ่านตลอดทั้งปีอีกด้วย มีทั้งหมด 3 บ่อแต่ละบ่ออุณหภูมิต่างกัน ซึ่งอุณหภูมิของน้ำจะอยู่ที่ประมาณ 45-55 องศาเซลเซียส เพื่อนๆคนไหนมีโอกาสได้ไปสัมผัสอย่าลืมแช่ให้ครบทั้ง 3 บ่อและปิดท้ายด้วยการแช่ลำธารเย็นๆข้างบ่อเป็นการปิดรูขุมขนด้วยนะคะ
14. บ่อน้ำพุร้อนแจ้ซ้อน (อุทยานแห้งชาติแจ้ซ้อน) จังหวัดลำปาง
ตั้งอยู่ในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน อำเภอแจ้ซ้อน มีพื้นที่รวมประมาณ 1,200 ตารางเมตร เป็นธารน้ำแร่ธรรมชาติที่โอบล้อมด้วยโขดหิน ประกอบด้วยบ่อน้ำแร่ 2 บ่อได้แก่ บ่อน้ำร้อนธรรมด (Hot pool) และบ่อน้ำร้อนไหลซึม (seep) ซึ่งมีอุณหภูมิประมาณ 68-82 องศาเซลเซียส หากมาช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ จะเป็นช่วงที่อากาศ และวิวดีสุดๆ จะได้สัมผัสหมอกไอทั้งช่วงเช้าและเย็น ตัดกับอากาศหนาวเย็นในช่วงฤดูหนาว อีกหนึ่งไฮไลท์ของที่นี่เพื่อนๆมักจะพบริ้วๆสีขาวในบ่อน้ำพุร้อน มันคือแบคทีเรียสีขาวชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่า Chloroflexus aurantiacus เป็นแบคทีเรียที่เจริญเติบโตได้ที่ในที่อุณหภูมิสูง กิจกรรมที่มาถึงแล้วพลาดไม่ได้นั่นคือการแช่น้ำพุร้อนมีทั้งแช่ตัวและแช่เท้า นอกจากนี้ยังมีบริการนวดตัวคลายกล้ามอีกด้วย และอีกหนึ่งกิจกรรมที่พลาดไม่ได้คือการมาต้มไข่ในบ่อน้ำพุร้อนนั่นเอง
15. ชีวาศรม อินเตอร์เนชั่นแนล เฮลท์ รีสอร์ท จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
เรียกได้ว่าเป็นรีสอร์ทเพื่อสุขภาพแห่งแรกของประเทศไทยและยังเป็นต้นแบบของเอเชีย มีเนื้อที่กว่า 17 ไร่บนริมหาดหัวหิน ริมถนนเพชรเกษม เลยซอยหัวหิน 87 ชีวาศรมเป็นรีสอร์ทที่มุ่งเน้นกิจกรรมเชิงสุขภาพให้แก่ผู้เข้าพักภายในรีสอร์ท แต่ในปัจจุบันยังมีบริการด้านสุขภาพ และความงามให้กับบุคลทั่วไปที่ไม่ได้มาพักภายในรีสอร์ทอีกด้วย กิจกรรมเพื่อสุขภาพของที่นี่มีหลายอย่างอาทิ สปา (Spa) ห้องสตีม ห้องซาวน่า การแพทย์แผนทางเลือก (Holistic) กายภาพบำบัด (Physio) ฟิตเนส (Fitness) โภชนาการ การออกกำลังกาย และความงาม นอกจากกิจกรรมเพื่อสุขภาพแล้วชีวาศรมยังเป็นรีสอร์ทที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
16. คามาลายา เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ตั้งอยู่ที่ 102/9 หมู่ 3 ถนนแหลมเส็ด ตําบลหน้าเมือง อีกหนึ่งรีสอร์ทเพื่อสุขภาพที่หากมีโอกาสควรแวะมาใช้บริการ เพราะที่นี่เป็นรีสอร์ทที่ได้รับรางวัลมากมายเรื่องสุขภาพและการทำความอาด มีโปรแกรมเชิงสุขภาพหลากหลายโปรแกรมมากถึง 16 โปรแกรมไว้คอยบริการอาทิ การดำเนินชีวิตอย่างมีสุขภาพดี, ดีท็อกซ์ แอนด์ รีเซ็ต, คลายเครียดและความเหนื่อยล้า, ปลูกฝังและพัฒนาทั้งด้านหัวใจ ร่างกายและจิตวิญญาณ, รวมถึงการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพอีกด้วย นอกจากโปรแกรมดีๆ ที่นี่ยังมีห้องพักพร้อมวิวทะเลสวยๆไว้คอยบริการอีกด้วย
บางครั้งการได้เดินทางเพื่อเที่ยวชมธรรมชาติ และวิถีชีวิตชุมชนอันเนิบช้า ก็เปรียบเสมือนการได้พักผ่อน เติมพลังให้กับชีวิตอีกครั้ง เพื่อที่จะได้มีกำลังกายและกำลังใจที่ดี ในการที่จะต้องต่อสู้ และเผชิญชีวิตในวันข้างหน้าต่อไป นั่นเอง