Site icon simplymommynote

รวมเคล็ดลับลดน้ำหนักอย่างง่าย ได้ผลจริง แม้ไม่มีเวลาออกกำลังกาย

รวมเคล็ดลับลดน้ำหนักอย่างง่าย ได้ผลจริง แม้ไม่มีเวลาออกกำลังกาย-01

“ไม่มีเวลาออกกำลังกายก็ลดน้ำหนักได้ จริงหรือ?”

เป็นคำถามที่หลายคนต้องทำตาโต และแอบตีปีกดีใจอยู่ลึก ๆ ถ้าหากจะทำให้พุงย้วย ๆ คางหย่อน ๆ และน่องอวบ ๆ หายไปได้โดยไม่ต้องเหนื่อยออกกำลังกาย…แน่ละ ใคร ๆ ก็อยากมีหุ่นผอมเพรียว ให้หนุ่ม ๆ สาว ๆ เหลียวมองตามกันทั้งนั้น แต่ต้องมาสะดุดอยู่ที่การออกกำลังกายนี่สิ โดยเฉพาะหนุ่มสาวชาวออฟฟิศทั้งหลาย ที่แทบหาเวลาว่างไม่ได้เอาเสียเลย การมีหุ่นสวย สมาร์ทจากการออกกำลังกาย จึงเป็นเหมือนเรื่องที่ห่างไกลออกไปจากความเป็นจริงหลายกิโลเมตรทีเดียว

แล้วถ้าคุณสามารถผอมลงได้ด้วยวิธีธรรมชาติ จากการใช้ชีวิตประจำวัน โดยไม่ต้องพึ่งพาการออกกำลังกาย และไม่ต้องใช้ยาลดความอ้วนล่ะ มันจะดีกว่าไหม?

สารบัญ

Toggle

สัญญาณเตือนว่าควรลดน้ำหนัก

“เมื่อไรที่คุณควรจะลดน้ำหนัก เพื่อบอกลาไขมันส่วนเกินเสียที?”

เชื่อว่าหลายคนคงรู้ดีว่า การลดน้ำหนักอย่างแท้จริงนั้น ไม่ใช่การโหมออกกำลังกายอย่างหนักเพื่อให้น้ำหนักลด หรือการอดอาหาร แต่การลดน้ำหนักที่แท้จริงก็คือ การลดไขมันส่วนเกินที่เกาะอย่ตามชั้นผิวหนัง หรือสะสมอยู่ตามอวัยวะภายในต่างๆ เช่น ตับ ตับอ่อน ลำไส้ใหญ่ และ หัวใจ เป็นต้น เพราะการมีไขมันส่วนเกิน หรือมีภาวะอ้วน น้ำหนักเกิน นอกจากจะทำให้เสียบุคลิกภาพแล้ว ยังนำมาซึ่งโรคร้ายต่างๆ อีกมากมายด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้ สัญญาณเตือนที่บ่งบอกว่า “ถึงเวลาแล้ว ที่คุณจะต้องลดน้ำหนักเสียที” ได้แก่

นอนกรนแทบจะทุกคืน

ทั้ง ๆ ที่เมื่อก่อนไม่เคยเป็น

อึดอัด

จนแทบหายใจไม่ออก เสื้อผ้าที่เคยใส่ได้พอดี มีอันคับติ้วจนแทบปริออกจากกัน

เริ่มมีอาการปวดกระดูก

ปวดเมื่อยตามร่างกาย เช่น กระดูกสันหลัง แขน ขา เข่า สะโพก เป็นต้น

หิวเร็ว หิวบ่อย

หิวอยู่ตลอดเวลา ยิ่งเครียดยิ่งหิว ยิ่งเครียดก็ยิ่งกิน กินได้แบบไม่รู้สึกผิด

เจ็บหน้าอกซ้ายโดยเฉพาะเวลานอน

นี่คือสัญญาณเตือนขั้นรุนแรง ที่บอกให้รู้ว่า คุณกำลังเสี่ยงต่อภาวะเส้นเลือดหัวใจอุดตัน นั่นเอง

ผลการตรวจเลือดและวัดความดัน

ที่บอกคุณว่า ขณะนี้คุณเสี่ยงต่อการเป็นเบาหวาน และความดันโลหิตสูงแล้วนะ

รู้สึกอ่อนเพลีย

เหนื่อยล้า ไม่มีแรง เศร้าซึมอยู่ตลอดเวลา แม้ว่าจะนอนพักผ่อนได้ 8 – 9 ชั่วโมงแล้วก็ตาม

หลายคนทักบ่อย ๆ ว่าคุณ “อ้วนขึ้นนะ”

“อ้วนขึ้นนะ” สามารถใช้เก็บเป็นสถิติได้เลยนะคะ เพราะแสดงว่าสิ่งที่เพื่อน ๆ หรือคนรอบข้างเห็นรูปร่างของคุณที่เปลี่ยนไปนั้นมองไปในทิศทางเดียวกัน

ดัชนีมวลกาย

ที่กำลังเตือนคุณว่า “คุณมีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐานแล้วนะ” การหาค่าดัชนีมวลกาย หรือ BMI ทำได้ง่าย ๆ โดยการใช้สูตร

“น้ำหนักตัว หารด้วยส่วนสูง (เมตร) ยกกำลังสอง”

ถ้าผล ที่ได้น้อยกว่า 18.5 หมายความว่า คุณมีน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์ หรือยังไม่อ้วนนั่นเอง แต่ถ้าผลลัพธ์ ที่ได้มากกว่า 25 นั่นก็แปลว่า คุณอ้วนเกินไปแล้ว สมควรลดน้ำหนักได้เสียที

รู้สึกเหมือนเฟอร์นิเจอร์ในบ้านของคุณเล็กลง

จะนั่งจะนอนตรงไหนก็รู้สึกว่า มันแคบเกินไปสำหรับคุณ อึดอัดไปหมด เอ…แบบนี้คุณควรจะเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์ หรือเปลี่ยนตัวคุณเองดีนะ?

รวมเคล็ดลับลดน้ำหนักอย่างง่าย ได้ผลจริง แม้มีเวลาน้อย

รวมเคล็ดลับลดน้ำหนักอย่างง่าย ๆ ได้ผลจริง สำหรับผู้ที่ไม่มีเวลาออกกำลังกาย ได้แก่

กินให้เป็น ตามหลักการ

“หนักมื้อเช้า เบามื้อเที่ยง เลี่ยงมื้อเย็น ละเว้นมื้อดึก”

เลือกกินอาหารที่มีประโยชน์

งดอาหารไขมัน ลดแป้ง และน้ำตาล เลือกดื่มชา แทนกาแฟ โดยเฉพาะชาเขียว ซึ่งมีสารต้านอนุมูลอิสระ ให้ความสดชื่นกระปรี้กระเปร่าเช่นเดียวกับกาแฟ แต่มีคุณค่าต่อสุขภาพมากกว่าการดื่มกาแฟ

เลือกภาชนะใส่อาหารที่มีสีตัดกับอาหาร

โดยเฉพาะภาชนะที่มีสีฟ้า ซึ่งมีงานวิจัยยืนยันว่า สีฟ้าของภาชนะ และห้องอาหาร ทำให้คนกินอาหารน้อยลงจากปกติถึง 33% เลยทีเดียว

เลือกรับประทานอาหารว่างที่มีคุณค่าทางโภชนาการ

อิ่มนาน และไม่ทำให้อ้วน เช่น เมล็ดธัญพืช และถั่วเมล็ดแห้งชนิดต่างๆ เป็นต้น

อารมณ์ดีเป็นนิจ

จิตแจ่มใส เสียงหัวเราะนอกจากจะทำให้คุณผ่อนคลายความเครียดลงได้แล้ว ยังถือเป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิกอีกด้วย เวลาที่คุณหัวเราะ หัวใจจะเต้นเร็วขึ้น ทำให้ระบบการไหลเวียนโลหิตเร็วขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณหัวเราะฮาโลกแตก แบบเบลคไม่อยู่ เป็นเวลานานถึง 1 ชั่วโมง จะทำให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานได้เกือยเทียบเท่ากับการยกน้ำหนักเป็นเวลานาน 30 นาทีเลยทีเดียว

ปิดไฟเวลานอน

เพื่อที่จะได้นอนหลับสนิท อย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมง และถ้าเลือกได้ ควรนอนในห้องที่มีอากาศเย็น เพราะความเย็นจะกระตุ้นให้ร่างกายเผาผลาญพลังงาน เพื่อทำให้ร่างกายอบอุ่น ทั้งนี้จากผลการวิจัยพบว่า ผู้ที่นอนในห้องที่มีอุณหภูมิ 19 องศา ร่างกายสามารถเผาผลาญพลังงานได้มากกว่า ผู้ที่นอนในห้องที่มีอุณหภูมิ 22 องศา ถึง 7%

เพิ่มพริกในอาหาร

หรือรับประทานอาหารที่มีรสเผ็ด เพราะความเผ็ดร้อนของพริกจะช่วยเผาผลาญไขมันที่สะสมอยู่ในร่างกายได้เป็นอย่างดี

ดื่มน้ำให้มากขึ้น

อย่างน้อยวันละ 2 ลิตร นอกจากการดื่มน้ำเปล่าจะทำให้เรารู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่า และช่วยในการขับถ่ายได้อย่างดีแล้ว การดื่มน้ำทั้งก่อนและหลังการรับประทานอาหาร ยังช่วยทำให้อิ่มเร็วขึ้น และลดความอยากในการรับประทานอาหารได้อีกด้วย

แปรงฟันทุกครั้งหลังการรับประทานอาหาร

ฟังดูเหมือนไม่ค่อยจะเกี่ยวกับการลดน้ำหนักตรงไหน แต่แท้จริงแล้ว การแปรงฟัน สามารถช่วยลดความอยากในการรับประทานอาหารได้เป็นอย่างดี

กินผัก และโปรตีนให้มากขึ้น

เพื่อกระตุ้นการขับถ่าย และเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ และควรลดการกินอาหารจำพวกแป้ง ย้ำตาล และไขมันลง เพราะแป้งและน้ำตาลที่เหลือจากการที่ร่างกายนำไปใช้ จะถูกเปลี่ยนเป็นไขมัน สะสมอยู่ตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย ทำให้คุณอ้วนมากยิ่งขึ้น นั่นเอง

อย่างไรก็ตาม การลดความอ้วน หรือการลดน้ำหนักโดยวิธีที่ถูกต้องก็คือ การทำให้ร่างกายเกิดการเผาผลาญไขมันลง ซึ่งอาจทำได้หลายวิธีด้วยกัน ขึ้นอยู่กับความถนัดของแต่ละคน ทว่า หากปฏิบัติตามคำแนะนำในการลดน้ำหนักทุกวิถีทางแล้ว ยังพบว่าร่างกายยังอ้วน และมีน้ำหนักเกินมาตรฐานอยู่อีกละก็ บางทีคุณอาจไม่ได้อ้วนเพราะพฤติกรรมการใช้ชีวิต และการกินอาหาร แต่อาจเป็นเพราะระบบการเผาผลาญสารอาหารของคุณทำงานผิดปกติ หรืออาจมีภาวะแทรกซ้อนจากโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ เช่น โรคเบาหวาน ความดัน ก็เป็นได้ ดังนั้นอย่าปล่อยปละละเลย ควรไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยเสียแต่เนิ่นๆ เพราะถ้าปล่อยไว้นาน อาจกลายเป็นปัญหาสุขภาพเรื้อรัง ที่ยากจะแก้ไขได้อีกต่อไปก็เป็นได้

Exit mobile version