10 น้ำผึ้ง ยี่ห้อไหนดี 2023 ของแท้ พร้อมวิธีทดสอบ

Last Updated on 2023 08 02

ปัจจุบันนี้เราจะสังเกตเห็นได้ว่ามีหลายต่อหลายคนที่หันมาดุแลสุขภาพของตัวเองมากขึ้น คัดสรรสิ่งที่จะนำเข้าสู่ร่างกายมากขึ้น น้ำตาลก็นับเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคมากมาย ได้แก่ โรคเบาหวาน หรือโรคอ้วน เป็นต้น หลายคนจึงหันมาควบคุมการทานหวานมากขึ้น ซึ่งหนึ่งในตัวแทนที่หลายคนเลือกก็คือ “น้ำผึ้ง” ซึ่งวันนี้เรามีน้ำผึ้งคุณภาพดีมาแนะนำค่ะ

10 อันดับ น้ำผึ้ง ยี่ห้อไหนดี 2023

น้ำผึ้ง ดอยคำ

น้ำผึ้งแท้จากธรรมชาติ 100% จากกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงผึ้ง จังหวัดเชียงราย แหล่งเพาะเลี้ยงผึ้งที่ดีที่สุดในประเทศไทย คัดสรรผลผลิตพร้อมควบคุมผลผลิตด้วยวิธีธรรมชาติเพื่อให้ได้น้ำผึ้งที่มีรสชาติหอมหวาน กลมกล่อม น้ำผึ้งดอยคำเป็นน้ำแท้จากเกสรดอกลำไย ให้กลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์จากเกสรดอกลำไย สีเหลืองทอง รสชาติหวานละมุนกลมกล่อม กลิ่นหอมสดชื่น ไม่ใส่วัตถุกันเสีย ไม่เจือสี คงคุณค่าสาระสำคัญจากธรรมชาติอย่างครบถ้วน

• ราคา: 180 บาท

ประเภท	น้ำผึ้งแท้ 100%
ปริมาณ	980 กรัม
ชนิดน้ำผึ้ง	น้ำผึ้งจากเกสรดอกลำไย

น้ำผึ้ง สวนจิตรลดา

น้ำผึ้งเกสรดอกลำไยแท้ 100% จากโครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดาจากสหกรณ์ผู้เลี้ยงผึ้งทางภาคเหนือ น้ำผึ้งแท้จากธรรมชาติผ่านกระบวนการผลิตที่ดีและทันสมัยตามมาตรฐานสากล ปลอดภัย สะอาดต่อผู้บริโภคไม่เจือสี ไม่แต่งกลิ่น น้ำผึ้งคุณภาพดี ผ่านการตรวจสอบความบริสุทธิ์ของน้ำผึ้ง ทั้งรสชาติ กลิ่น สี ปริมาณจุลินทรีย์ และปริมาณน้ำตาลในน้ำผึ้ง อีกทั้งยังผ่านการรับรองมาตรฐานจาก GMP และ HACCP นอกจากรสชาติที่หอมหวานยังให้กลิ่นหอมจากเกสรดอกลำไยอีกด้วย

• ราคา: 258 บาท

ประเภท	น้ำผึ้งแท้ 100%
ปริมาณ	980 กรัม
ชนิดน้ำผึ้ง	น้ำผึ้งจากเกสรดอกลำไย

น้ำผึ้ง เขาค้อ ซีเล็คชั่น

อีกหนึ่งแบรนด์น้ำผึ้งคุณภาพจาก “เขาค้อ ซีเล็คชั่น” น้ำผึ้งแท้ 100% เกรดพรีเมียม คุณภาพความเข้มข้นเทียบเท่าน้ำผึ้งเดือน 5 ใช้ฟาร์มมาตรฐานจากแหล่งธรรมชาติในภาคเหนือของไทย ผ่านกระบวนการการระเหยความชื้นด้วยความร้อนต่ำ คงคุณค่าสารอาหารและสารต้านอนุมูลอิสระได้ มี 3 รสให้เลือกตามชอบ ได้แก่ น้ำผึ้งเกสรดอกลิ้นจี่, น้ำผึ้งเกสรดอกลำไย และน้ำผึ้งเกสรดอกไม้ป่า แต่ละรสชาติมีเอกลักษณ์ทั้งรสและกลิ่นต่างกันไป ผ่านการรับรองมาตรฐานการผลิตมากมาย เช่น Thai FDA (อย.), HACCP และ USFDA เป็นต้น

• ราคา: 129 – 349 บาท

ประเภท	น้ำผึ้งแท้ 100%
ปริมาณ	220 กรัม และ 700 กรัม
ชนิดน้ำผึ้ง	น้ำผึ้งจากดอกไม้ธรรมชาติ และดอกลำไย

น้ำผึ้งป่าเบญจพรรณ แม่สุพรรณี

การันตีความเป็นน้ำผึ้งป่าเบญจพรรณแท้ น้ำผึ้งที่ได้จากผึ้งเลี้ยงตามธรรมชาติ ปราศจากน้ำตาล ผ่านกระบวนการไล่ความชื้น ทำให้เก็บรักษาได้นานหลายปี รสชาติหวานหอมนุ่มลิ้น ได้ประโยชน์เต็มๆ จากน้ำผึ้งแท้ นอกจากนี้ ทางร้านยังมีน้ำผึ้งป่าธรรมดา และน้ำผึ้งขมพรีเมียม ที่ได้จากเกสรดอกไม้ป่ารสขมให้ได้เลือกตามชอบ ได้แก่ ดอกสะเดา, บอระเพ็ด ที่สำคัญเป็นสินค้า OTOP สามารถมอบให้เป็นของขวัญในวาระสำคัญต่างๆ ได้

• ราคา: 159 บาท

ประเภท	น้ำผึ้งแท้ 100%
ปริมาณ	1000 กรัม
ชนิดน้ำผึ้ง	น้ำผึ้งจากป่าเบญจพรรณ

ดอยผาผึ้ง น้ำผึ้งดอกกาแฟ

น้ำผึ้งจากเกสรดอกกาแฟแท้ 100% เกรดพรีเมี่ยม น้ำผึ้งตราดอยผาผึ้ง กระบวนการผลิตและบรรจุได้มาตรฐาน GMP และมาตรฐานอาหารปลอดภัย HACCP จึงมั่นใจได้ว่า สะอาด ปลอดภัย มีคุณภาพตามมาตรฐานสากล มีกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์จากเกสรดอกกาแฟ รสชาติหวานกำลังดี ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย

• ราคา: 500 บาท

ประเภท	น้ำผึ้งแท้ 100%
ปริมาณ	1000 กรัม x 2
ชนิดน้ำผึ้ง	น้ำผึ้งจากดอกกาแฟ

น้ำผึ้ง Langnese

น้ำผึ้งที่ขึ้นชื่อจากประเทศเยอรมนี เป็นน้ำผึ้งที่อยู่มาอย่างยาวนาน เป็นน้ำผึ้งที่เลี้ยงในฟาร์มเปิด เพื่อให้ผึ้งอาหารจากธรรมชาติ ฟาร์มของ Langnese มีอยู่ในหลาย ๆ ประเทศ แต่มีการควบคุมรสชาติและควบคุมคุณภาพได้อย่างดีเยี่ยมจากผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะ

• ราคา: 448 บาท

ประเภท	น้ำผึ้งแท้ 100%
ปริมาณ	500 กรัม
ชนิดน้ำผึ้ง	ไม่ระบุ

โอสถนิยม – น้ำผึ้งป่าเดือน 5

น้ำผึ้งบริสุทธิ์แท้จากผึ้งเลี้ยง เกี่ยวผลิตผลิตในช่วงเดือน 5 ระหว่างเดือนมีนาคม – เมษายน ซึ่งเป็นฤดูเก็บเกี่ยวน้ำผึ้งที่ดีที่สุดของปี ให้น้ำผึ้งที่มีรสชาติหวานกลมกล่อม กลิ่นหอมจากเกสรดอกไม้ป่าอย่างเป็นเอกลักษณ์ อีกทั้งยังคงคุณค่าแร่ธาตุและวิตามินที่สำคัญในน้ำผึ้งได้อย่างสมบูรณ์ เป็นสินค้า OTOP ที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน GMP สะอาด ปลอดภัยไม่แต่งกลิ่น สี  รสชาติเพิ่มเติม

• ราคา: 120 บาท

ประเภท	น้ำผึ้งแท้ 100%
ปริมาณ	1000 กรัม
ชนิดน้ำผึ้ง	น้ำผึ้งจากเกสรดอกไม้ป่า

กุนทนฟาร์ม น้ำผึ้งแท้จากดอกลำไย 100%

น้ำผึ้งแท้ 100% จากเกสรดอกลำไย เป็นน้ำผึ้งแท้ ไม่ผ่านกระบวนการไล่ความชื้น (Raw Honey) ไม่ผ่านกระบวนการ ระเหยความชื้น ด้วยความร้อน ผลิตจากฟาร์มผึ้งที่มีคุณภาพ ผ่านการรับรองมาตรฐาน GAP โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เก็บเกี่ยวน้ำผึ้งในช่วงดอกลำไยกำลังเบ่งบาน ทำให้ได้น้ำผึ้งสีเหลืองทอง รสชาติหวานละมุน กลิ่นหอมเกสรดอกลำไยอย่างเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว คงคุณค่าสารอาหาร แร่ธาตุ และเอนไซม์สำคัญในน้ำผึ้ง

• ราคา: 99 บาท

ประเภท	น้ำผึ้งแท้ 100%
ปริมาณ	155 กรัม
ชนิดน้ำผึ้ง	น้ำผึ้งจากเกสรดอกลำไย

ดอยตุง น้ำผึ้งดอกแมคคาเดเมีย

แบรนด์นี้เป็นหนึ่งในโครงการพัฒนาดอยตุงอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เพื่อให้ชาวบ้านได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น จึงได้มีการปลูกแมคคาเดเมีย และน้ำผึ้งจากผึ้งที่นำมาเลี้ยงไรแมคคาเดเมีย ส่งผลให้น้ำผึ้งมีความหอมอร่อยที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว หอมกลิ่นแมคคาเดเมียบาง ๆ ปราศจากสารเติมแต่งใด ๆ

• ราคา: 215 บาท

ประเภท	น้ำผึ้งแท้ 100%
ปริมาณ	280 กรัม
ชนิดน้ำผึ้ง	น้ำผึ้งจากดอกแมคคาเดเมีย

น้ำผึ้งเวชพงศ์

น้ำผึ้งเวชพงศ์เป็นน้ำผึ้งที่มีอย่างช้านาน ส่งต่อกันรุ่นสู่รุ่นจากร้านขายยาแบบดั้งเดิม และยังเป็นผู้บุกเบิกวงการผึ้งเลี้ยงเพื่ออุตสาหกรรม จึงทำให้ได้น้ำผึ้งที่สดใหม่ รสชาติหอมหวาน สะอาด และปลอดภัย เนื่องจากมีกระบวนการในการควบคุมคุณภาพที่ได้มาตรฐาน  GMP, HACCP, Halal และอื่น ๆ อีกมากมาย ที่สำคัญ มาในบรรจุภัณฑ์แบบใหม่ที่บีบใช้ง่าย

• ราคา: 315 บาท

ประเภท	น้ำผึ้งแท้ 100%
ปริมาณ	760 กรัม
ชนิดน้ำผึ้ง	น้ำผึ้งจากเกสรดอกลำไย

น้ำผึ้งดิบ คืออะไร?

คือ น้ำผึ้งที่ถูกบรรจุจากรังผึ้งโดยตรง ยังไม่ได้ผ่านกระบวนการทางความร้อน หรือการแปรรูปใด ๆ แต่อาจจะมีการกรองเล็กน้อยก่อน ในขั้นตอนเดียวเท่านั้น เช่น กรองเอาเศษผง ขี้ผึ้ง หรือผึ้งที่ตายแล้วออกไป นอกจากนี้ การที่จะระบุว่า “ดิบ” ได้ นั่นหมายความว่า น้ำผึ้งนั้น ๆ จะต้องไม่มีสารให้ความหวานหรือสารเติมแต่งใด ๆ ลงไป

น้ำผึ้งดิบมีความปลอดภัยต่อร่างกายเรา 100% เราจึงสามารถทานได้ งานวิจัยที่ได้ออกมาระบุว่า น้ำผึ้งดิบนั้นดีต่อสุขภาพ ซึ่งหนึ่งในหลาย ๆ องค์ประกอบนั้นก็คือ เกสรผึ้ง ที่มีคุณสมบัติสามารถต้านอาการอักเสบ มีฤทธิ์ในการต่อต้านอนุมูลอิสระ ต้านเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา รวมถึงสามารถบรรเทาอาการปวดได้

ประโยชน์ของน้ำผึ้ง

น้ำผึ้งมีประโยชน์ต่อร่างกายในหลาย ๆ ด้าน ดังนี้

บรรเทาอาการเจ็บคอ และลดอาการไอ

งานวิจัยชิ้นหนึ่งมีข้อมูลที่ระบุว่า ในน้ำผึ้งมีสรรพคุณเทียบเท่ายาแก้ไอเดกซ์โทรเมทอร์แฟน (Dextromethorphan) รวมถึงความหวานจากน้ำผึ้งยังช่วยกระตุ้นให้เกิดการหลั่งของน้ำลาย ส่งผลให้รู้สึกชุ่มคอ บรรเทาอาการไอ และบรรเทาอาการเจ็บคอได้ ซึ่งจะเห็นผลได้ดีสุดจะเป็นเด็กที่มีอายุ 2 ปีขึ้นไป

ดีท็อกซ์ร่างกาย

น้ำผึ้งมีส่วนช่วยในการขับถ่าย ลดอาการท้องผูก ยิ่งถ้าได้ทานคู่กับกล้วยน้ำว้าสุก ดื่มน้ำอุ่นก่อนนอน เช้ามาเราจะขับถ่ายได้อย่างสะดวกเลยค่ะ สบายท้อง

ช่วยรักษาโรคกระเพาะ

น้ำผึ้งมีสรรพคุณช่วยสมานแผลได้ทั้งภายในและภายนอกร่างกาย ดังนั้น จึงมีส่วนในการรักษาแผลในกระเพาะอาหารได้ดี นอกจากนี้ยังสามารถลดการติดเชื้อหรือแบคทีเรียในกระเพาะอาหารได้ดีอีกด้วย

ช่วยให้หลับสบาย

ในน้ำผึ้งมีความหวาน ซึ่งความหวานนี้เองที่กระตุ้นให้ร่างกายผลิตอินซูลิน (Insulin) พร้อมกับหลั่งสารแห่งความสุขหรือเซโรโทนิน (Serotonin) ซึ่งเซโรโทนินจะเปลี่ยนเป็นเมลาโทนิน (Melatonin) ที่ทำให้เกิดอาการง่วงนั่นเอง

บรรเทาอาการแพ้อากาศ

แนะนำเลยค่ะสำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคภูมิแพ้ เพราะในน้ำผึ้งมีฤทธิ์คล้ายกับสารที่ต้านอาการอักเสบ นอกจากนี้น้ำผึ้งยังส่งผลให้ร่างกายหลั่งสารฮีสตามีน (Histamine) ที่ช่วยลดอาการคัดจมูก น้ำมูกไหลได้

ลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจ

หลายคนอาจว้าวกับข้อนี้ เนื่องจากน้ำผึ้งมีส่วนช่วยในการลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใข และโรคที่เกี่ยวกับหลอดเลือด ช่วยลดความดันโลหิตสูง รวมถึงช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้อีกด้วย เพราะความหวานที่ได้จากน้ำผึ้งเป็นน้ำตาลประเภทฟรุกโตส มีความหวานเท่าน้ำตาลแต่มีแคลอรี่น้อยกว่า ที่สำคัญ น้ำผึ้งยังเกิดขึ้นได้จากผลไม้และดอกไม้ที่มีตามธรรมชาติ ซึ่งก็จะทำพให้เราได้รับวิตามินเพิ่มไปด้วย

รักษาแผล

ด้วยสรรพคุณของน้ำผึ้งจะช่วยฆ่าเชื้อได้ จึงมีส่วนช่วยในการสมานแผลได้ดี แผลจึงหายเร็วขึ้น สามารถใช้ได้ทั้งแผลสดและแผลเปื่อย

แผลสด

หากเป็นแผลสดควรล้างแผลให้สะอาดด้วยน้ำเกลือทางการแพทย์ก่อน แล้วค่อยทาน้ำผึ้งที่แผล และปิดด้วยผ้าพันแผล และควรเปิดแผลมาทำความสะอาดทุกวัน ทำแผลใหม่ทุกครั้ง

แผลมีหนอง

ควรทำความสะอาดแผลก่อน เอาหนองออกให้หมด ล้างแผลด้วยน้ำเกลือทางการแพทย์ และทาด้วยน้ำผึ้ง พร้อมกับปิดด้วยผ้าพันแผล ทำเช่นนี้ทุกวันค่ะ

ช่วยชะลอวัย

เนื่องจากในน้ำผึ้งจะมีสารต้านอนุมูลอิสระในกลุ่มของฟลาโวนอยด์ มีคุณสมบัติในการเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิว ช่วยให้ผิวแลดูอ่อนเยา และเปล่งปลั่งสดใส ที่สำคัญ น้ำผึ้งยังช่วยลดปัจจัยเสี่ยงในการเกิดโรคเรื้อรังต่าง ๆ ได้ดีอีกด้วย

ช่วยให้ผิวสวยสดใส

สามารถนำน้ำผึ้งมาเป็นส่วนผสมในการมาส์กหน้าได้ โดยสูตรมาส์กหน้าง่าย ๆ ที่เรานำมาแนะนำในวันนี้คือ การนำกล้วยมาบด ผสมเข้ากับโยเกิร์ต และน้ำผึ้ง คนให้เข้ากัน แล้วนำมาพอกหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที รับรองผิวหน้านุ่มเนียน สวยใสแน่นอน นอกจากนี้น้ำผึ้งยังช่วยลดขนาดของรูขุมขนให้เล็กลง ทำให้ผิวแลดูเนียนใสได้อีกด้วยค่ะ

ช่วยบำรุงเส้นผม

ด้วยสรรพคุณของน้ำผึ้งคือ มีส่วนช่วยให้เส้นผมมีความแข็งแรง ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่อาจสะสมอยู่บนหนังศีรษะได้ วิธีการก็คือ หลังจากสระผมเสร็จแล้ว ให้นำน้ำผึ้งมาผสมเข้ากับน้ำมันมะกอก ชโลมให้ทั่วศีรษะ ทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที แล้วล้างออก ผมจะนุ่มสลวยเป็นเงางามทีเดียวค่ะ

วิธีการเลือกซื้อน้ำผึ้ง

การเลือกซื้อน้ำผึ้งแท้ เรามีแนวทางมาแนะนำ ดังนี้

• น้ำผึ้งแท้จะมีลักษณะเหนียวข้น ถ้าลองเอียงขวดแล้ว น้ำผึ้งไหลไปเร็วแสดงว่าปริมาณน้ำในน้ำผึ้งมาก ซึ่งน้ำผึ้งดีต้องไหลช้า
• อย่าเลือกซื้อเพราะราคาถูก และต้องพิจารณาข้ออื่น ๆ ร่วมด้วย
• เลือกน้ำผึ้งที่เหนียวข้น ซึ่งถ้าเป็นน้ำผึ้งใส นั่นแปลว่าน้ำผึ้งนั้นได้ผ่านความร้อนไปแล้ว ส่งผลให้อาจเสียคุณค่าทางอาหารไปบางส่วน
• ดมกลิ่นน้ำผึ้ง ถ้าเป็นน้ำผึ้งแท้ไม่ควรมีกลิ่นเหม็นไหม็ ซึ่งนั่นแปลว่าน้ำผึ้งผ่านการเคี่ยวให้ข้น และต้องไม่มีกลิ่นเหม็นเปรี้ยว เพราะอาจบูดแล้ว
• น้ำผึ้งที่มีสีเข้มก็ไม่ควรเลือกเช่นเดียวกัน เพราะเป็นไปได้ว่าเก็บเอาไว้นานหรือน้ำผึ้งนั้นผ่านการบ่มมา
• ให้ชิมน้ำผึ้ง น้ำผึ้งแท้จะไม่รสขม เพราะหากมีรสขมเจือปนแสดงว่าน้ำผึ้งผ่านการต้มหรือเก็บมานานแล้ว

น้ำผึ้งควรทานปริมาณเท่าไหร่ต่อวัน

แม้ว่าน้ำผึ้งจะมีประโยชน์มากก็ตาม แต่ก็ไม่ควรทานมากเกินไป ซึ่งปริมาณที่แนะนำต่อวัน ควรอยู่ที่ 6 ช้อนชา หรือ 2 ช้อนโต๊ะ หรืออย่างมากไม่ควรเกิน 10 ช้อนชาต่อวันนะคะ

วิธีทานน้ำผึ้งให้ได้ประโยชน์

ผสมได้กับน้ำอุ่น

ในน้ำผึ้งมีวิตามิน และสารอาหารอื่น ๆ ที่มีประโยชน์มากมาย แต่น้ำผึ้งไม่ควรผสมกับน้ำร้อนค่ะ เพราะจะทำให้คุณค่าทางอาหารนั้นหมดไป ผสมได้กับน้ำอุ่นจะดีที่สุด โดยผสมกับน้ำอุ่นดื่ม 3 เวลา คือ ก่อนอาหาร 1 ชั่วโมง และก่อนเข้านอน ช่วยให้หลับสบาย

ทานแทนน้ำตาล

เช่น ใส่ในเครืองดื่ม น้ำผลไม้ ชา หรือทานพร้อมกับแพนเค้กแทนแยม หรือทานคู่กับอะโวคาโดก็อร่อยไปอีกแบบค่ะ (ติดตามเพิ่มเติม >> 8 เมนูอะโวคาโด สำหรับลูกวัย 6 เดือนขึ้นไป บำรุงสมอง และการมองเห็น)

คนท้องทานน้ำผึ้งได้หรือไม่

สำหรับคุณแม่ที่ชอบทานน้ำผึ้งเป็นชีวิตจิตใจ เมื่อเข้าสู่ช่วงของการตั้งครรภ์อาจเกิดความกังวลใจว่าจะสามารถทานน้ำผึ้งได้เหมือนเดิมหรือไม่ คำตอบคือ คุณแม่ที่อยู่ในภาวะตั้งครรภ์สามารถทานน้ำผึ้งได้ปกติ เนื่องจากโดยทั่วไปแล้วคนปกติวัยผู้ใหญ่ในระบบย่อยอาหารจะมีแบคทีเรียตามธรรมชาติที่สามารถป้องกันเชื้อ Clostridium Botulism หรือเชื้อโรคที่ทำให้เกิดอาหารเป็นพิษ (Botulism) นั่นเอง อย่างไรก็ตามควรทานน้ำผึ้งที่ผ่านการฆ่าเชื้อโรคแล้วไม่ควรทานน้ำผึ้งดิบ (raw honey) เพราะอาจทำให้เกิดโรคโบทูลิซึม (Botulism) อันตรายเช่นเดียวกับในเด็ก

ประโยชน์ของน้ำผึ้งกับคุณแม่ตั้งครรภ์

นอกจากความหอมหวาน แสนอร่อยของน้ำผึ้งที่ปรากฏอยู่ในหลายเมนูอาหาร เครื่องดื่ม รวมถึงด้านความงามเครื่องสำอาง และยารักษาโรค รู้หรือไม่ว่าการทานน้ำผึ้งให้ประโยชน์อะไรกับร่างกายมากกว่าความอร่อย

บำรุงเลือด

เนื่องจากน้ำผึ้งมีองค์ประกอบของธาตุเหล็กการทานน้ำผึ้งสามารถเพิ่มการสร้างเม็ดเลือดในร่างกาย บำรุงเลือด และลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคโลหิตจางและภาวะตกเลือดหลังคลอดได้ดีทีเดียว

ลดอาการนอนไม่หลับ อ่อนเพลีย

เพียงทานน้ำผึ้งผสมกับนมอุ่นๆก่อนเข้านอนจะช่วยให้พักนอนหลับมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ลดอาการอ่อนเพลียจากการพักผ่อนไม่เพียงพอ

รักษาอาการหวัด ไอ จาม

น้ำผึ้งมีองค์ประกอบของ กรดกลูโคนิกและไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยยับยั้งการเจริญของเชื้อโรคและแบคทีเรีย ดังนั้นจึงช่วยลดอาการไข้หวัด ไอ จามได้

รักษาแผล

มีงานวิจัยชี้ให้เห็นว่าน้ำผึ้งสามารถลดการติดเชื้อ Helicobacter pylori ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดการติดเชื้อในอวัยวะภายใน ก่อให้เกิดแผลแต่ไม่แสดงอาการได้

ข้อควรระวังในการทานน้ำผึ้ง

แม้ว่าในช่วงตั้งครรภ์คุณแม่สามารถทานน้ำผึ้งได้ปกติแล้ว และน้ำผึ้งยังมีสารพัดประโยชน์ อย่างไรก็ตามการทานน้ำผึ้งในช่วงการตั้งครรภ์ยังมีข้อควรระวังในการรับประทานอยู่ มาดูกันเลยว่าคุณแม่ตั้งครรภ์ต้องระวังอะไรบ้างในการทานน้ำผึ้ง

ไม่ควรทานเกินวันละ 25 กรัม

หรือ 3-5 ช้อนชา เนื่องจากน้ำผึ้งจัดเป็นสารให้ความหวานที่ให้พลังงานสูงจึงไม่ควรทานมากเพราะอาจมีผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดสูง

ระวังอาการปวดท้อง ท้องเสีย ท้องอืด ท้องผูก

เนื่องจากน้ำผึ้งบางชนิดอาจมีการปนเปื้อนของเชื้อ Clostridium Botulism ส่งผลให้เกิดอาการปวดท้องอาหารเป็นพิษ ท้องเสีย รวมทั้งความเป็นกรดของน้ำผึ้งอาจส่งผลต่อระบบทางเดินอาหาร ทำให้การย่อยอาหารช้าลง

เสี่ยงต่อการเกิดโรคอ้วนและเบาหวาน

เพราะอย่างที่กล่าวไปน้ำผึ้งเป็นสารให้ความหวานที่ให้พลังงานสูง การทานมากเกินไปอาจส่งผลให้เกิดการสะสมไขมัน และอาจนำไปสู่การเกิดโรคอ้วนและโรคเบาหวานตามมาได้

ทำไมต้องน้ำผึ้งเดือน 5

• น้ำผึ้งที่ได้เป็นน้ำผึ้งป่าหรือน้ำผึ้งจากธรรมชาติ ไม่ใช่ผึ้งเลี้ยง
• เดือน 5 หมายถึงเดือน 5 ตามปฏิทินจันทรคติไทย ซึ่งอยู่ในช่วงเดือนมีนาคม – เมษายน ใน 1 ปีมีเพียง 1 ครั้งเท่านั้น
• เป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิ พันธุ์ไม้ ดอกไม้ นานาชนิดกำลังงอกงาม
• ช่วงเดือน 5 เป็นช่วงที่ผึ้งเก็บน้ำหวานจากเกสรจากดอกไม้ได้หลากหลายพันธุ์
• อากาศในช่วงเดือน 5 เป็นช่วงที่อากาศมีความชื้นต่ำ (ต่ำกว่า 18%) ส่งผลให้น้ำผึงที่เก็บในช่วงเดือน 5 มีความเข้มข้นสูง
• น้ำผึ้งที่เก็บในช่วงเดือน 5 เป็นช่วงที่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์ และคุณภาพแบบครบถ้วน อาทิอุดมไปด้วย แคลเซียม เกลือแร่ ฟอสฟอรัส กรดอะมิโนจำเป็น แร่ธาตุที่สำคัญ วิตามินเอ บี ซี อีกทั้งยังมีสารต้านอนุมูลอิสระสูงอีกด้วย
• มีกลิ่น รสชาติหอมหวานเป็นเอกลักษณะเฉพาะตัว
• สามารถเก็บได้นาน เนื่องจากเป็นน้ำผึ้งที่มีความชื้นต่ำ มันองค์ประกอบของน้ำน้อย ทำให้เกิดเชื้อราได้ยาก
• เหมาะกับการทำยา เนื่องจากอุดมไปด้วยแร่ธาตุที่สมบูรณ์

ความแตกต่างของน้ำผึ้งแต่ละชนิด

น้ำผึ้งดอกไม้ป่า

เป็นน้ำผึ้งที่ได้จากธรรมชาติมีความหอมหวานจากดอกไม้หลากหลายชนิด นิยมเก็บน้ำผึ้งป่าในช่วงเดือน 5 เป็นช่วงที่น้ำผึ้งมีองค์ประกอบทั้งสารอาหาร คุณประโยชน์ กลิ่น รสชาติสมบูรณ์ที่สุด ให้รสชาติหวานธรรมชาติ กลิ่นหอมเย็นจากกลิ่นดีไม้ มีสีเหลืองออกน้ำตาลอ่อนๆ

น้ำผึ้งดอกลิ้นจี่

เหมาะสำหรับสายหวาน น้ำผึ้งชนิดนี้ได้มาจากเกสรดอกลิ้นจี่ มักเป็นผึ้งเลี้ยง แม้จะเก็บได้เฉพาะบางช่วงเท่านั้น แต่ปัจจุบันเกษตรได้ปรับปรุงพัฒนาการให้สามารถเก็บน้ำผึ้งจากเกสรดอกลิ้นจี่ได้ตลอดทั้งปี รสชาติของน้ำผึ้งดอกลิ้นจี่มีรสชาติหวานแหลม หวานอมเปรี้ยวเล็กน้อย กลิ่มหอมดอกลิ้นจี่เป็นเอกลักษณ์  มีสีเหลืองทองอำพัน เมื่อเก็บไว้นานจะเปลี่ยนสี

น้ำผึ้งดอกลำไย

เป็นน้ำผึ้งที่ได้มากจากเกสรดอกลำไย ว่ากันว่าเป็นน้ำผึ้งที่มีกลิ่นและรสชาติดีที่สุดในประเทศไทย หาซื้อได้ง่ายตามท้องตลาด น้ำผึ้งมีกลิ่นหอมหวานของดอกลำไย รสชาติหวานเจี๊ยบ ลักษณะมีสีน้ำตาลค่อนข้างเข้ม ไม่เปลี่ยนสีและไม่ตกผลึกเมื่อทิ้งไว้เป็นเวลานาน

น้ำผึ้งป่า vs น้ำผึ้งเลี้ยง แตกต่างกันอย่างไร?

น้ำผึ้งป่า

ได้มาจากรังผึ้งในธรรมชาติเช่น ผึ้งหลวง ผึ้งโพรง และผึ้งมิ้ม เป็นน้ำผึ้งที่มาจากเกสรดอกไม้นานาชนิด ไม่สามารถแยกชนิดได้ นิยมเก็บในช่วงเดือน 5 เพื่อให้ได้น้ำผึ้งคุณภาพดี ประโยชน์ครบถ้วนสมบูรณ์

น้ำผึ้งเลี้ยง

เป็นน้ำผึ้งที่ได้มาจากพันธุ์ผึ้งต่างประเทศเช่น ประเทศยุโรป เพื่อนำมาเลี้ยงในสถานที่ที่มีการควบคุมเช่น อาหารของผึ้ง วิธีการเลี้ยงอาทิ การเลี้ยงแบบปล่อยไว้ตามธรรมชาติ การเลี้ยงแบบกึ่งธรรมชาติ การเลี้ยงในหีบมีคอน กลิ่นของน้ำผึ้งเลี้ยงมักมีเอกลักษณ์เฉพาะเช่น กลิ่นดอกกทานตะวัน ดอกลิ้นจี่ ดอกลำไย เป็นต้น ขึ้นอยู่กับแหล่งเกสรดอกไม้

วิธีตรวจสอบน้ำผึ้งแท้ vs น้ำผึ้งปลอม

จะรู้ได้อย่างไรว่าขวดไหนเป็นน้ำผึ้งแท้ วันนี้เรามีแนวทางในการทดสอบมาแนะนำ ซึ่งมีหลายวิธีด้วยกัน ดังนี้

หยดบนกระดาษทิชชู่

ทดสอบน้ำผึ้งแท้โดยการหยดบนกระดาษทิชชู่ โดยหยดน้ำผึ้งลงบนทิชชู่ถ้าน้ำผึ้งแท้จะไม่ซึมเข้าไปในทิชชู่ แต่น้ำผึ้งปลอมจะซึมลงทิชชูทันทีเมื่อหยดลงไป

การดมและชิม

ทดสอบน้ำผึ้งแท้โดยการดมกลิ่น และ ชิม น้ำผึ้งแท้จะมีความหอมธรรมชาติจากกลิ่นรวงน้ำผึ้ง และไขมันผึ้งชัดเจน และทดสอบด้วยการชิม แนะนำว่าให้ชิมประมาณ 1-2 ช้อนโต๊ะในขณะรู้สึกอ่อนล่า หากชิมแล้วผ่านไปประมาณ 20 นาทีเรารู้สึกสดชื่นแสดงว่าน้ำผึ้งแท้

นำไปแช่เย็น

ทดสอบน้ำผึ้งแท้โดยการแช่เย็น ให้ลองนำน้ำผึ้งแช่ในช่องแช่แข็งถ้าน้ำผึ้งแท้จะไม่แข็งตัวเป็นน้ำแข็ง จะยังคงอยู่ในสภาพเดิมเป็นของเหลว

อาศัยการเก็บนานๆ

ทดสอบน้ำผึ้งโดยการเก็บ น้ำผึ้งแท้เมื่อเก็บไว้นานๆ จะมีสีคล้ำขึ้น แต่กลิ่นและรสชาติยังคงเดิม ในขณะที่น้ำผึ้งปลอมจะมีการแยกชั้นชัดเจนระหว่างน้ำผึ้งและน้ำตาล

การเขย่า

ทดสอบน้ำผึ้งแท้โดยการเขย่า ลองเขย่าขวดน้ำผึ้งไปมาแรงๆ หากเป็นน้ำผึ้งแท้จะมีฟองอากาศขนาดใหญ่ ไม่เกิดการแยกชั้นเพราะน้ำผึ้งแท้จะมีความหนืดสูง แต่น้ำผึ้งปลอมจะมีฟองอากาศขนาดเล็กและเกิดการแยกชั้น

ใช้ไม้ขีดไฟ

ทดสอบน้ำผึ้งแท้โดยไม้ขีดไฟ ให้ลองนำไม้ขีดไฟจุ่มน้ำผึ้งเล็กน้อยก่อนนำไปจุดไฟ ถ้าเป็นน้ำผึ้งแท้จะติดไฟและสามารถเผาน้ำผึ้งได้ แต่น้ำผึ้งปลอมจะจุดไฟไม่ติดเนื่องจากมีความชื้นสูง

นำไปละลายน้ำ

ทดสอบน้ำผึ้งแท้โดยละลายในน้ำ น้ำผึ้งแท้เมื่อหยดลงในน้ำจะไม่กระจายตัวจะม้วนขดซ้อนกันไปเรื่อยๆ แต่น้ำผึ้งปลอมจะละลายทันที

ดูว่ามดขึ้นหรือไม่

ทดสอบน้ำผึ้งแท้โดยใช้มด ลองเทน้ำผึ้งใส่ในถ้วยหรือเปิดฝาทิ้งไว้ถ้าน้ำผึ้งแท้มดจะไม่ขึ้น แต่น้ำผึ้งปลอมหมดจะเข้ามาเกาะ

น้ำผึ้งแท้มดขึ้นไหม?

น้ำผึ้งแท้หมดไม่ขึ้น เนื่องจากเกสรดอกไม้บางชนิดที่ผึ้งดูดน้ำหวานมีความเป็นกรดค่อนข้างสูง หรือดอกไม้ชนิดนั้นมีกลิ่นที่มดไม่ชอบ ทำให้มดไม่ขึ้นน้ำผึ้งแท้ อีกหนึ่งสาเหตุอาจเนื่องจากน้ำผึ้งมีความหนืดสูงทำให้มดดึงน้ำผึ้งไปเป็นอาหารได้ยาก อย่างไรก็ตามยังเป็นข้อถกเถียงกันอยู่ว่าจริงหรือไม่น้ำผึ้งแท้มดไม่ขึ้น เนื่องจากมีการทดสอบทั้งพบและไม่พบมดขึ้นน้ำผึ้งแท้ อาจเนื่องมาจากมดบางชนิดเท่านั้นอย่างเช่นมดดำตัวใหญ่จะขึ้นน้ำผึ้งแท้และดูดน้ำผึ้ง ในขณะที่มดทั่วไปอย่างเช่นมดน้ำตาล มดละเอียด เป็นต้น มักจะไม่เข้าใกล้น้ำผึ้ง

น้ำผึ้งมีประโยชน์มากมายต่อร่างกาย แต่ก็ไม่ควรทานเยอะเกินไปเพราะอาจส่งผลเสียได้ อาจทำให้เกิดอาการท้องอืด หรือบางรายอาจเกิดอาการท้องเสียได้ หากใครที่ยังไม่เคยทานน้ำผึ้ง แนะนำให้เริ่มในปริมาณที่น้อย ๆ ก่อน เพื่อร่างกายจะได้ปรับตัวก่อนนะคะ