DHA (Docosahexaenoic Acid) สารอาหารที่สำคัญต่อสมองลูกน้อย

DHA (Docosahexaenoic Acid) สารอาหารที่สำคัญต่อสมองลูกน้อย
อาหาร & โภชนาการ

DHA นับเป็นสารอาหารสำคัญที่ลูกน้อยควรได้รับและไม่ควรขาด คุณพ่อคุณแม่รู้หรือไม่ว่า DHA สำคัญอย่างไรกับลูกน้อยทำไมจึงควรได้รับ อีกทั้งในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับทารกหลายชนิดมักเสริมด้วยสารอาหารสำคัญนั่นคือ DHA ดังนั้นในการเลือกอาหารเสริมโดยเฉพาะการเลือกนมผงเด็กให้ลูกน้อยพ่อแม่หลายท่านจึงมักพิจารณาจากองค์ประกอบของสารอาหาร DHA ประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อมารู้จัก DHA พร้อมกันว่าคืออะไร และมีความสำคัญอย่างไรต่อลูกน้อย

DHA (Docosahexaenoic Acid) คืออะไร

Docosahexaenoic Acid หรือ DHA คือ กรดไขมันจำเป็นในตระกูลโอเมก้า 3 ร่างกายไม่สามารถผลิตได้เองและจำเป็นต้องได้รับจากแหล่งของสารอาหารภายนอก

นอกจากนี้ DHA ยังเป็นสารอาหารที่พบมากในน้ำนมแม่ อีกทั้งยังพบได้จากแหล่งอาหารอื่นอาทิ ปลาทะเลน้ำลึก เช่น ปลาแซลมอน ปลาโอลาย หรือปลาทู ปลาทูน่า สาหร่ายทะเล และเมล็ดพืชตระกูลวอลนัต เป็นต้น DHA เป็นสารอาหารสำคัญมีส่วนช่วยในการทำงานของสมอง การมองเห็น และระบบประสาท อีกทั้ง ยังทำหน้าที่เป็นตัวรับสัญญาณสารสื่อประสาท และเชื่อมเซลล์ประสาทให้ทำงานประสานกัน

ประโยชน์ของ DHA ต่อพัฒนาการ

DHA เป็นสารอาหารสำคัญเป็นโครงสร้างพื้นฐานของเซลล์สมองและจอประสาทตา ในสมองและเซลล์ประสาทตา เป็นกรดไขมันที่พบมากที่สุดเมื่อเทียบกับกรดไขมันชนิดอื่นโดย DHA พบในสมอง 40% และพบในจอประสาทตา 60% ดังนั้น DHA จึงเป็นสารอาหารสำคัญและมีประโยชน์ต่อพัฒนาการของลูกน้อยในหลายส่วน ได้แก่

ปลายประสาท

ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของปลายประสาท เดนไดรต์ (dendrite) โดยทำหน้าที่ถ่ายทอดสัญญาณและส่งผ่านข้อมูลระหว่างเซลล์สมองด้วยกันทำให้เกิดความจำและการเรียนรู้

สายตา

ช่วยในการมองเห็นได้ดี เนื่องจากเป็นองค์ประกอบสำคัญในเยื่อหุ้มสมองและจอตา ช่วยให้ลูกน้อยมองเห็นได้ชัดเจนขึ้น ส่งเสริมทักษะการเคลื่อนไหวได้อย่างแม่นยำ

ลดความเสี่ยงสมาธิสั้น

ช่วยส่งเสริมกระบวนการทางความคิดและเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนรู้ของลูกน้อยให้ดีขึ้น ลดความเสี่ยงการเกิดลักษณะสมาธิสั้นได้

เสริมสติปัญญา

ช่วยเสริมสติปัญญาและการเรียนรู้ของเด็กมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น DHA ทำให้เซลล์สมองมีการขยายขนาด พื้นผิวมีรอยหยัก จำนวนของเส้นใยสมองและจุดเชื่อมต่อ จึงส่งผลให้ช่วยเพิ่มพื้นที่ในการเก็บข้อมูล

เพิ่มความสุข

เนื่องจาก DHA ทำหน้าที่ควบคุมสารสื่อประสาทให้ทำงานได้อย่างสมบูรณ์ อีกทั้งยังสามารถเพิ่มสารแห่งความสุขให้ร่างกายและจิตใจสดชื่นร่าเริง

ผลกระทบหากขาด DHA

มาส่วนนี้เราจะชวนคุณพ่อคุณแม่ไปดูกันค่ะว่า หากลูกน้อยขาดสารอาหารอย่าง DHA แล้ว จะผลอย่างไรบ้าง

  • ระดับไอคิวลดต่ำลง ประสิทธิภาพในการเรียนรู้และจดจำสิ่งต่าง ๆ ลดลง ส่งผลให้มีปัญหาการเรียนรู้ช้า ทั้งการเขียนและการอ่าน
  • มีปัญหาเป็นโรคสมาธิสั้น และขาดการยับยั้งชั่งใจ
  • การมองเห็นของทารกลดลง เนื่องจาก DHA เป็นสารสำคัญเกี่ยวกับการทหงานของระบบประสาทและการมองเห็น เมื่อขาด DHA อาจมีผลต่อการมองเห็นลดลงและอาจก่อให้เกิดโรคตาบอดกลางคืนได้

ข้อควรระวัง ในการบริโภค DHA

แม้ DHA เป็นสารอาหารสำคัญและมีประโยชน์สำหรับลูกน้อยอย่างไรก็ตามการได้รับ DHA ควรได้รับในปริมาณที่เหมาะสมต่อช่วงวัย อีกทั้งการรับประทาน DHA อาจมีผลข้างเคียงอาทิ คลื่นไส้ ท้องอืด เลือดกำเดาไหล ท้องเสีย เกิดรอยช้ำตามร่างกายมีกลิ่นคาวปลาในปาก มีเลือดออกเป็นเวลานาน เป็นต้น ดังนั้นก่อนเสริม DHA ให้ลูกน้อยควรศึกษาข้อควรระวังทุกครั้ง

  • ปรึกษาการใช้ DHA ตามคำแนะนำของแพทย์และตามฉลาก
  • ควรรับประทาน DHA พร้อมอาหารเพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียง
  • ทารกอายุต่ำกว่า 2 ปี ควรรับประทาน DHA ปริมาณ 10-12 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม
  • ควรเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีการรับรองมาตรฐานการผลิต ซึ่งได้รับการรับรองมาตรฐานจาก (GMP ของไทย, BfArm ของเยอรมัน, TGA ของออสเตรเลีย)

แหล่งอาหารธรรมชาติที่มีสารอาหาร DHA

นอกจากน้ำนมแม่ DHA ยังสามารถพบได้จากแหล่งอาหารอื่นโดยเฉพาะปลาทะเลน้ำลึก ทารกควรได้รับ DHA ในประมาณที่เหมาะสมแต่ควรได้รับอย่างต่อเนื่องตามช่วงวัย ทารกที่อาจไม่ได้ดื่มน้ำนมแม่ควรเสริมด้วยผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีส่วนประกอบของ DHA หรือทานควบคู่กับการดื่มนมแม่ สามารถเสริม DHA ให้ลูกน้อยจากแหล่งอาหารธรรมชาติอื่นๆ ได้แก่

  • ปลาทะเลน้ำลึก เช่น ปลาแซลมอน ปลาโอลาย หรือปลาทู ปลาทูน่า สาหร่ายทะเล
  • ปลาน้ำจืดบางชนิดที่มีไขมันสูงอย่าง ปลาสวาย ปลาช่อน เป็นต้น
  • เนื้อสัตว์ชนิดอื่น เช่น ไก่ และไข่ (คุณพ่อคุณแม่สามารถหาไอเดียเมนูไข่ สำหรับลูกน้อยวัย 6 เดือนขึ้นไปได้ที่นี่) เป็นต้น
  • เมล็ดถั่ววอลนัท

สรุป

ร่างกายของมนุษย์ไม่สามารถสร้าง DHA เองได้จึงจำเป็นต้องได้รับจากแหล่งอาหารอื่น ซึ่ง DHA พบในน้ำนมแม่ ทารกยังจำเป็นต้องได้รับ DHA ตั้งแต่อยู่ในครรภ์ โดยเฉพาะในช่วง 3 เดือนสุดท้ายก่อนคลอด และหลังคลอด DHA ยังเป็นสารอาหารที่จำเป็นสำหรับทารกน้อยเนื่องจากเป็นสารอาหารสำคัญต่อพัฒนาการทางด้านระบบประสาท สมอง และการมองเห็นช่วยในการเรียนรู้และจดจำสิ่งต่างๆได้ดี หากทารกได้รับ DHA จากน้ำนมแม้ไม่เพียงพอควรได้รับจากแหล่งอาหารเสริมอื่นเช่นนมผงเด็กเพื่อให้ลูกน้อยมีพัฒนาการอย่างสมบูรณ์ตามช่วงวัย


Crazy Secret

70,093 views

นักเขียนหลากหลายแนวหลงไหลงานเขียน ไลฟ์สไตล์ ซีรีย์ รีวิว สัตว์เลี้ยง สุขภาพ ความงาม "Writer enjoy and hope will be reader happy" FB: The write เขียน ไป เรื่อย

Profile

Pickup posts

Related posts

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

Save