Site icon simplymommynote

วิตามินบี 12 หากได้รับไม่พอ เสี่ยงออทิสติกและเลือดจาง

วิตามินบี 12 หากได้รับไม่พอ เสี่ยงออทิสติกและเลือดจาง

วิตามินบี 12 เป็น 1 ในวิตามินที่สำคัญและจำเป็นสำหรับลูกน้อยพอๆ กับสารอาหารสำคัญอื่น ๆ  ที่ลูกน้อยควรได้รับในปริมาณที่เพียงพอ วิตามินบี 12 มีส่วนช่วยในการทำงานของระบบประสาทและสมองให้ปกติ อีกทั้งยังมีบทบาทสำคัญในกระบวนการสร้างเม็ดเลือดแดง วิตามินบี 12 สำคัญกับลูกน้อยขนาดนี้คุณพ่อคุณแม่จึงไม่ควรพลาดให้ลูกน้อยได้รับวิตามินบี 12 ในสัดส่วนและปริมาณที่เพียงพอต่อความร่างกายของลูกน้อย เพื่อการพัฒนาการของลูกน้อยอย่างสมบูรณ์

วิตามินบี 12 คืออะไร

วิตามินบี 12 (Vitamin B12)  หรือโคบาลามิน (Cobalamin) เป็นวิตามินที่ร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์เองได้ จะต้องรับจากการรับประทานอาหารเท่านั้น และยังเป็นวิตามินชนิดหนึ่งที่ละลายได้ในน้ำและแอลกอฮอล์

มีบทบาทสำคัญในการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง การทำงานของเซลล์สมองและระบบประสาท ขบวนการเคมีที่เกิดขึ้นสิ่งมีชีวิตรวมทั้งเป็นองค์ประกอบในการสร้างสารพันธุกรรมเช่น DNA, เมทิลโคบาลามินเป็นวิตามินบี 12 ชนิดที่ออกฤทธิ์ทางชีวภาพได้ทันที

วิตามินบี12 มีสูตรโครงสร้างสลับซับซ้อนคล้ายกับเฮโมโกลบิน นอกจากนี้วิตามินบี 12 ที่พบในร่างกายมีหลายรูปแบบแต่จะเรียกรวมๆกัน ว่า “ โคบาลามิน ” สำหรับตัวที่มีฤทธิ์มากจะเป็นผลึกสีแดงเข้ม และส่วนตัวที่วางขายกันในท้องตลาดและมีฤทธิ์สูงกว่าในทางยา ก็คือ  “ ไฮดรอกโซโคบาลามิน (Hydroxocobalamin)

ประโยชน์ของวิตามินบี 12 ต่อพัฒนาการ

เสริมสร้างการทำงานของระบบประสาท มีส่วนช่วยให้การทำงานของระบบประสาทส่วนกลาง และช่วยให้เซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายสามารถทำงานได้ดีขึ้น

สร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง

เป็นโคเอนไซม์ (Co-Enzyme) ในการกระตุ้นให้เกิดการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง

การป้องกันภาวะโลหิตจาง

ช่วยให้การทำงานของไขกระดูกเป็นปกติ หากว่าขาดวิตามินบี 12 อาจทำให้เกิดภาวะเลือดจางได้

ช่วยสร้างและควบคุมดีเอ็นเอ (DNA)

วิตามินบี 12 เมื่ออยู่ในไขกระดูกวิตามินบี 12 จะทำหน้าที่เป็นโคเอนไซม์ช่วยในการเร่งปฏิกิริยาการสังเคราะห์ DNA (Deoxyribonucleic Acid) เพื่อใช้ในการกระตุ้นให้เซลล์สร้างเม็ดเลือดแดงเกิดการแบ่งเซลล์เป็นเซลล์เม็ดเลือดแดงตามปกติ

ป้องกันการสะสมไขมันในตับ (Lipotropic Factors)

ช่วยในการสังเคราะห์เมไทโอนีน และโคลีน ซึ่งเป็นตัวการสำคัญในการป้องกันการสะสมไขมันในตับ

ช่วยกระตุ้นความอยากอาหาร

สำหรับเด็กหรือผู้ที่รับประทานยาก ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตในเด็ก Underdeveloped และ Undernourished ซึ่งวิตามินบี 12 จะเพิ่มความอยากอาหาร ทำให้กินอาหารได้มาก แต่อาจไม่มีผลกับเด็ปกตที่ไม่ขาดวิตามินบี 12

ผลกระทบหากขาดวิตามินบี 12

วิตามินบี 12 เป็นวิตามินที่ลูกน้อยควรได้รับให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย โดยปกติปริมาณวิตามินบี 12 ที่ควรได้รับมีความต้องการปริมาณวิตามินบี 12 ต่อวันที่แตกต่างกันตามช่วงวัยได้แก่

  • ช่วงวัยเด็กอายุ 1-3 ปี 0.9 ไมโครกรัม/วัน
  • ช่วงเด็กอายุ 4-8 ปี 1.2 ไมโครกรัม/วัน
  • ช่วงวัยรุ่น 9-12 ปี 1.8 ไมโครกรัม/วัน
  • ช่วงวัยรุ่น 13-18 ปี 2.4 ไมโครกรัม/วัน
  • ช่วงวัยผู้ใหญ่ 19-71 ปี 2.4 ไมโครกรัม/วัน

วิตามินบี 12 กับแม่ตั้งครรภ์

ผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ควรรับประทานวิตามินบี 12 เพิ่มอีก 0.2 ไมโครกรัม/วัน และผู้หญิงที่ให้นมบุตรควรเพิ่มอีก 0.4 ไมโครกรัม/วัน

ทั้งนี้ หากร่างกายได้รับวิตามินบี 12 ไม่เพียงพอต่อความต้องการมักไม่แสดงอาการความผิดปกติ แต่มีอาการผิดปกติในบางรายเท่านั้นเช่น

  • มีอาการซีดจากภาวะโลหิตจาง หรือมีอาการตัวเหลือง
  • การทำงานของระบบประสาทผิดปกติ มีการรับรู้ช้าลง หลงลืมได้ง่าย
  • มีอาการชาตามปลายมือปลายเท้า
  • อ่อนเพลีย ไม่มีแรง
  • เบื่ออาหาร

และนอกจากนี้ในเด็กที่ได้รับวิตามินบี 12 ไม่เพียงพอหรือต่ำกว่าปกติเด็กอาจมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคออทิซึม (autism) และหากขาดวิตามินชนิดนี้เด็กอาจเป็นโรคโลหิตจางได้

ข้อควรระวังในการบริโภควิตามินบี 12

วิตามินบี 12 แม้เป็นวิตามินที่มีความจำเป็นต่อร่างกายและมีประโยชน์ต่อการทำงานของระบบต่างๆในร่างกาย แต่การรับประทานวิตามินบี 12 อาจมีข้อความระวังในการรับประทานเช่น

ได้รับวิตามินบี 12 ในปริมาณมากเกินไป

อาจเกิดความผิดปกติของร่างกายเช่นรู้สึกปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย อ่อนเพลีย และมีอาการชาที่มือและเท้าได้

เด็กควรได้รับวิตามินบี 12 ให้เพียงพอ

ซึ่งปริมาณที่ควรได้รับแตกต่างกันตามช่วงวัย เพศ อายุ ในวัยเด็กควรได้รับประมาณ 0.9-1.2 ไมโครกรัม/วัน ถ้าร่างกายขาดวิตามินบี 12 จะส่งผลให้เกิดภาวะโลหิตจางได้

หลีกเลี่ยงการใช้ยาบางชนิด

วิตามินบี 12 หรือ Cyanocobalamin เมื่อใช้ร่วมกับยา Chloramphenicol จะทำให้ประสิทธิภาพของการรักษาภาวะโรคโลหิตจางด้วย Cyanocobalamin ด้อยลง

แหล่งอาหารธรรมชาติที่มีสารอาหารวิตามินบี 12

วิตามินบี 12 เป็นวิตามินที่ร่างกายสร้างไม่ได้จำเป็นต้องได้รับจากการรับประทานอาหารเท่านั้น ข้อมูลจากสำนักโภชนาการกรมอนามัย ปี พ.ศ. 2563 ระบุว่า

  • เด็กทารก อายุ 0-5 เดือน ควรได้รับวิตามินบี 12 จากน้ำนมแม่ในปริมาณ 0.4 ไมโครกรัมต่อวัน
  • เด็ก 1-8 ขวบ ควรได้รับวิตามินบี 12 ปริมาณ 0.9-1.2 ไมโครกรัมต่อวันจากการรับประทานอาหาร ซึ่งอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินบี 12
  • อาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินบี 12 ได้แก่ เนื้อสัตว์ ตับ ปลา อาหารทะเล ไข่ สัตว์ปีก นม และผลิตภัณฑ์จากนม ธัญพืช และซีเรียลต่าง ๆ แต่ไม่พบในผักผลไม้
  • ในทารกที่ได้รับวิตามินบี 12 ไม่เพียงตามปริมาณที่ควรได้รับต่อวันสามารถเสริมด้วยผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอื่นๆ เช่น ผลิตภัณฑ์นมผงเด็ก นม อาหารเสริมอื่นๆ ที่มีวิตามินบี 1 เป็นองค์ประกอบเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการในแต่ละวัน

สรุป

วิตามินบี 12 เป็นวิตามินที่ลูกน้อยควรได้รับในปริมาณที่เหมาะสมในแต่ละวัน ในเด็กที่ขาดวิตามินบี 12 อาจมีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะโรหิตจาง เนื่องจากวิจามินบี 12 เป็นองค์ประกอบสำคัญในการะบวนการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดงในร่างกาย และยังมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคออทิสติก (Autistic หรือ Autism Spectrum disorder) ซึ่งเป็นโรคที่เกิดจากการทำงานที่ผิดปกติของสมองนั่นเอง ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่อาจต้องใส่ใจเรื่องการรับประทานอาหารของลูกน้อยและเสริมให้ลูกได้รับวิตามินบี 12 ในปริมาณที่เหมาะสมต่อวัน รวมถึงสารอาหารสำคัญอื่น ๆ ที่ควรได้รับควบคู่กันอย่าง DHA และ ARA เป็นต้น

 

Exit mobile version