หลังคลอดกินผลไม้อะไรได้บ้าง ร่างกายฟื้นไว มีน้ำนมให้ลูก
การเป็นคุณแม่มือใหม่ที่ต้องดูแลรักษาตัวเองหลังคลอดเป็นอะไรที่จะเป็นมาก ๆ ค่ะ เพราะนอกจากที่เราจะต้องดูแลตัวเองแล้ว เรายังต้องมีแรง มีกำลังเหลือพอที่จะไปดูแลลูกน้อยอีกด้วย ผลไม้จากที่เคยกินได้ทุกอย่างก่อนตั้งครรภ์ มาวันนี้เป็นคุณแม่ลูกอ่อนแล้ว อาจต้องเลือกสักหน่อยค่ะว่าหลังคลอดจะกินผลไม้อะไรได้บ้าง ที่จะดีต่อตัวคุณแม่เองและลูกน้อย ไปติดตามกันค่ะ
หลังคลอดกินผลไม้อะไรได้บ้าง
ลูกพีช
หรือบางคนเรียกว่า “ลูกท้อ” เป็นผลไม้ที่มีกลิ่นหอม รสหวาน เนื้อฉ่ำ เติบโตได้ดีในพื้นที่ที่มีอากาศเย็น มีต้นกำเนิดจากประเทศจีน ลูกพีชนี้อุดมไปด้วยสารอาหารที่สำคัญที่ร่างกายทั้งของคุณแม่และลูกน้อยต้องการ นั่นคือ แมกนีเซียมที่ส่งเสริมและกระตุ้นการทำงานของระบบประสาท และยังเป็นการช่วยลดความเครียดได้อีกด้วยค่ะ
กล้วย
เป็นอีกหนึ่งผลไม้ที่มีประโยชน์มากมาย อุดมไปด้วยโพแทสเซียมและไฟเบอร์ ช่วยให้ระบบขับถ่ายของคุณแม่เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ป้องกันการท้องผูก เสี่ยงต่อริดสีดวงทวาร ซึ่งคุณแม่หลังคลอดและคุณแม่ที่อยู่ในระยะให้นมบุตรหากกินกล้วยเป็นประจำทุกวันกล้วยจะช่วยในเรื่องการรักษาสมดุลของของเหลวในร่างกายได้ดีทีเดียว
มะละกอ
ผลไม้ที่อุดมไปด้วยสารอาหารสำคัญมากมาย อาทิ ไฟเบอร์ วิตามินเอ วิตามินบี วิตามินซี ธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส และแคลเซียมสูง นอกจากนี้ยังมีเอนไซม์ที่จะช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานในร่างกาย
สำหรับคุณแม่ที่อยู่ในระยะให้นมบุตรควรกินเป็นมะละกอสุก ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการผลิตน้ำนมให้มากขึ้น รวมถึงมะละกอยังช่วยป้องกันโรคนิ่วในระบบทางเดินปัสสาวะ ป้องกันการติดเชื้อจากจุลินทรีย์ที่มีอยู่ภายในลำไส้ มะละกอยังช่วยในเรื่องของความสวยความงามได้อีกด้วยค่ะ เนื่องจากในมะละกอมีเอนไซม์ที่ช่วยบำรุงผิว ให้ผิวดูชุ่มชื้อนมีเลือดฝาด
แคนตาลูป
เป็นผลไม้ที่มีปริมาณน้ำมาก เหมาะมากสำหรับคุณแม่ที่ให้นมลูก เนื่องจากคุณแม่ต้องสูญเสียน้ำจากการให้นมลูก แคนตาลูปจึงสามารถทดแทนน้ำในร่างกายได้และช่วยในการปรับสมดุลของร่างกาย แคนตาลูปอุดมไปด้วยวิตามินซีซึ่งเป็นสารอาหารสำคัญที่ร่างกายคุณแม่ต้องการ
อินทผลัม
ส่วนตัวแม่โน้ตว่าอร่อยค่ะ 555 แต่อินทผลัมไม่ใช่แค่อร่อยอย่างเดียวนะคะ แต่ยังอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์มากมายเลย อาทิ วิตามินเอ วิตามินบี 2 วิตามินบี 6 วิตามินเค แคลเซียม เหล็ก ซัลเฟอร์ ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม ไฟเบอร์ และแมงกานีส
ทั้งนี้ สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ที่ใกล้คลอด หากกินอินทผลัมจะช่วยสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อมดลูก ช่วยในเรื่องการบีบตัวของมดลูกขณะคลอดได้ดี ส่วนคุณแม่ที่อยู่ในระยะให้นมบุตร อินทผลัมจะช่วยเพิ่มสารอาหารสำคัญในน้ำนมแม่ ทำให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันในร่างกายของลูกน้อยมากขึ้น พร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ
อะโวคาโด
เป็นผลไม้ที่ประโยชน์มาก มีแคลอรีและไขมันสูง แต่อะโวคาโดก็มีสารต้านอนุมูลอิสระและมีโปรตีนสูงมากกว่าผลไม้อื่น ๆ และที่สำคัญมีโพแทสเซียมสูงเช่นกัน อะโวคาโดจะช่วยในเรื่องของการบำรงสายตา เส้นผม หัวใจ นอกจากนี้ยังกระตุ้นการทำงานของระบบย่อยอาหารของลูกน้อยให้เป็นไปอย่างปกติและมีประสิทธิภาพ
เมล็ดขนุน
สารอาหารสำคัญในเมล็ดขนุน ได้แก่ โปรตีน ไขมัน ธาตุเหล็ก คาร์โบไฮเดรต วิตามินบี 1 และฟอสฟอรัส ซึ่งเหล่านี้จะช่วยในเรื่องการกระตุ้นการผลิตน้ำนมให้มีน้ำนมมากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยบำรุงระบบประสาทให้ทำงานได้อย่างปกติ เมนูแนะนำคือ เมล็ดขนุนต้ม
หลังคลอดผลไม้อะไรที่ควรหลีกเลี่ยง
ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว
ได้แก่ ส้ม สับปะรด องุ่น และกีวี ผลไม้กลุ่มนี้ไม่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคุณแม่ที่อยู่ในระยะให้นมบุตร เนื่องจากอาจทำให้รสชาติของน้ำนมเปลี่ยนไป มีกลิ่นที่เปลี่ยนไป อาจส่งผลให้ลูกปฏิเสธการกินนมได้ ซึ่งผลที่ตามมาคือ ลูกจะร้องไห้ งอแง ซึ่งในทารกบางรายอาจมีอาการแพ้ได้ เช่น ผดผื่น อาเจียน และท้องเสีย
ผลไม้ตระกูลเบอร์รี
ได้แก่ สตรอเบอร์รี บลูเบอร์รี ราสเบอร์รี เชอร์รี และลูกพรุน เหล่านี้เป็นผลไม้หวานอมเปรี้ยว ไม่ควรกินในระยะที่ให้นมบุตร เนื่องจากอาจทำให้ลูกน้อยเสี่ยงท้องเสีย และเกิดกรดในกระเพาะของลูกได้
ผลไม้หมักดอง
ข้อนี้ไม่ควรกินทั้งขณะที่ตั้งครรภ์และระยะให้นมบุตร เนื่องด้วยมีปริมาณเกลือและน้ำตาลที่สูงมาก นอกจากจะไม่มีประโยชน์แล้ว ยังส่งผลเสียต่อพัฒนาการในด้านต่าง ๆ ของลูกน้อยได้
ทุเรียน (Durian) และ มะม่วงดิบ (Mango)
ทั้งสองอย่างนี้ล้วนเป็นผลไม้ที่มีแป้งและน้ำตาลในปริมาณที่สูงมาก หากคุณแม่หลังคลอดกินเข้าไปอาจส่งผลให้เกิดอาการจุก เสียด แน่นหน้าอก และถ้ากินในปริมาณมาก ๆ อาจเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานได้ และที่สำคัญ ทุเรียนเป็นผลไม้ที่มีกลิ่นแรง ดังนั้น อาจส่งผลให้กลิ่นและรสชาติของน้ำนมเปลี่ยนไป ลูกน้อยก็จะปฏิเสธการกินนมได้ค่ะ
เพราะร่างกายของคุณแม่หลังคลอดต้องได้รับการดูแลมากเป็นพิเศษ เพราะคุณแม่ต้องดูแลลูกน้อยให้มีสุขภาพร่างกายและจิตใจที่แข็งแรงควบคู่กันไปด้วย ดังนั้น ก่อนที่คุณแม่จะกินอะไรควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนนะคะ หรือถ้าไม่แน่ใจปรึกษาแพทย์ดีที่สุดค่ะ