อาการคนท้อง 6 เดือน อาหารบำรุงครรภ์ และพัฒนาการทารกในครรภ์
ก้าวเข้าสู่เดือนที่ 6 แล้วนะคะคุณแม่ เดือนสุดท้ายของไตรมาสที่ 2 ไปติดตามกันเลยดีกว่าค่ะว่าช่วงนี้ร่างกายของคุณแม่จะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปอีกบ้าง และพัฒนาการทารกในครรภ์อยู่ในขั้นไหนแล้ว
อาการคนท้อง 6 เดือน และและการเปลี่ยนแปลงของร่างกายแม่ตั้งครรภ์
น้ำหนักขึ้น
ช่วงนี้น้ำหนักของคุณแม่ยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องประมาณครึ่งกิโลกรัมต่อสัปดาห์ คุณแม่ยังไม่ต้องกังวลนะคะว่าท้องจะเล็กหรือใหญ่ เพียงแค่ดูแลตัวเอง ดูแลเรื่องอาหารการกินให้ครบทุกหมู่ (แต่ไม่ต้องเน้นแป้งและน้ำตาลเยอะนะคะ) กินให้หลากหลายเข้าไว้ ลูกน้อยในครรภ์ก็จะแข็งแรงค่ะ
อาการเสียดบริเวณท้องน้อย
อาการเสียดท้องน้อยมักจะเกิดในช่วงที่คุณแม่กำลังจะลุกยืนหรือกำลังจะนั่ง เนื่องจากมดลูกมีการหกตัวและเกร็ง ดังนั้น คุณแม่ที่ไปคนค่อนข้างทำอะไรไวเมื่อครั้งที่ยังไม่ได้ตั้งครรภ์ ช่วงนี้ก็อย่าลืมตัวนะคะ พยายามเคลื่อนไหวให้ช้าลงสักหน่อย คิดซะวาช่วงนี้เป็นช่วงสโลว์ไลฟ์แล้วกันนะคะ
ปวดชายโครง
เนื่องจากมดลูกมีการขยายตัวมากขึ้น ซึ่งขณะที่ลูกน้อยดิ้นนั้นบางครั้ง บางจังหวะอาจทำให้คุณเจ็บเสียดและปวดที่ชายโครงได้ บางครั้งลูกน้อยอาจถีบไปถูกกระเพาะอาหารทำให้คุณแม่เกิดอาการเจ็บได้เล็กน้อยเช่นกัน
ระวังภาวะโรคแทรกซ้อน
ปกติแล้วช่วงนี้คุณแม่จะเริ่มมีอาการเท้าบวม เนื่องจากฮอร์โมนในร่างกายที่เปลี่ยนแปลงไป นอกจากนี้ให้คุณแม่ระวังเรื่องของโรคแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็นโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง ครรภ์เป็นพิษ หรือการอักเสบจากเชื้อรา คุณแม่ต้องควบคุมเรื่องอาหารให้ดี และพบกับสูตินรีแพทย์ตามนัดทุกครั้ง
อาหารบำรุงครรภ์ 6 เดือน
วิตามินบี 2
วิตามินบี 2 จัดเป็นอาหารที่มีส่วนช่วยเสริมสร้างและบำรุงระบบประสาทส่วนกลาง ระบบประสาทส่วนปลาย รวมถึงช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดง วิตามินบี 2 พบมากในหอยนางรม หอยแมลงภู่ หอยกาบ เนื้อวัว ไข่ ตับวัว ปลาซาร์ดีน ปลากะพง ปู กุ้ง นม ไข่ และชีส
ไขมันและพลังงาน
สารอาหารจำพวกนี้เป็นส่วนที่ร่างกายคุณแม่ยังต้องการอยู่ เพราะไขมันและพลังงานจะเข้าไปช่วยในเรื่องของระบบการย่อยอาหาร ระบบการดูดซึมอาหารในร่างกาย จนทำให้ทารกสามารถขับถ่ายของเสียออกมาในลำไส้ใหญ่ อาหารที่อุดมไปด้วยไขมันและพลังงาน ได้แก่ เนื้อหมู เนื้อไก่ ปลา ธัญพืช เห็ด ถั่วต่าง ๆ และงา เป็นต้น
ไฟเบอร์สูง
เป็นอีกหนึ่งกลุ่มอาหารที่ร่างกายของคุณแม่ต้องการเนื่องจากอายุครรภ์ยิ่งมาก อาการท้องผูกยิ่งมีมากเช่นกัน อาการท้องผูกเกิดจากการกดทับของมดลูกที่มีขนาดใหญ่ขึ้นจนไปกดทับลำไส้และกระเพาะอาหารทำให้การทำงานไม่เป็นไปตามปกติ นอกจากนี้อาหารที่มีไฟเบอร์สูงยังช่วยป้องกันในเรื่องน้ำหนักเกิน โรคความดันโลหิตสูง และโรคเบาหวานได้อีกด้วย อาหารที่อุดมไปด้วยไฟเบอร์ ได้แก่ ถั่วลันเตา ถั่วเมล็ดแห้ง ข้าวโอ้ต ข้าวกล้อง อะโวคาโด บรอกโคลี และเบอร์รี่
ธาตุเหล็ก
ธาตุเหล็กเป็นสารอาหารที่ช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดงทั้งคุณแม่และทารกในครรภ์ได้เป็นอย่างดี พบมากในเนื้อสัตว์ เครื่องในสัตว์ และอาหารทะเล โดยเฉพาะเนื้อที่มีสีแดงเข้ม แต่ควรเลือกซื้อกับร้านหรือยี่ห้อที่ไว้ใจได้ไม่ใส่สารแร่งสีนะคะ นอกจากนี้อาหารที่มีวิตามินซีสูงก็สำคัญค่ะ พบได้มากในบรอกโคลี มะเขือเทศ ส้ม และฝรั่ง เพราะวิตามินซีจะช่วยในการดูดซึมเอาธาตุเหล็กมาใช้ได้มากขึ้น ซึ่งจะช่วยป้องกันคุณแม่ให้ห่างไกลจากภาวะโลหิตจางได้อย่างดีเยี่ยมทีเดียว
พัฒนาการทารกในครรภ์ 6 เดือน
Credit: emmasdiary.co.uk
- ความยาวของทารกในครรภ์เดือนที่ 6 นี้ วัดตั้งแต่หัวจรดเท้าจะอยู่ที่ 33 เซนติเมตร และน้ำหนักตัวจะอยู่ที่ 600 กรัมโดยประมาณ
- ตามร่างกายเริ่มมีขนอ่อนขึ้นปกคลุมมากขึ้น เปลือกตาเริ่มเปิดได้บ้างแล้ว
- ผมอ่อนเริ่มขึ้นบนศีรษะ
- ปอดเริ่มทำงานได้ แต่หลอดลมของปอดยังพัฒนาได้ไม่เต็มที่ จึงทำงานได้ไม่เต็มที่เช่นกัน
- ทารกในครรภ์เริ่มรับรู้และมีปฏิกิริยาต่อความไวต่อคลื่นเสียงสูง ๆ และดัง รวมถึงจะมีการเคลื่อนไหวตัวตามจังหวะเสียงการพูดคุยของคุณพ่อคุณแม่ ดังนั้น ช่วงนี้ให้คุณพ่อคุณแม่ชวนลูกพูดคุยบ่อย ๆ นะคะ อาจเป็นการเล่านิทานหรือจะร้องเพลงให้ลูกฟังก็ได้ค่ะ เพราะลูกจะชอบฟังเสียงของคุณพ่อคุณแม่ค่ะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
- อาการคนท้อง 1 เดือน พร้อมวิธีแก้อาการแพ้ท้อง
- อาการคนท้อง 2 เดือน อาหารบำรุงครรภ์ และพัฒนาการทารกในครรภ์
- อาการคนท้อง 3 เดือน อาหารบำรุงครรภ์ และพัฒนาการทารกในครรภ์
- อาการคนท้อง 4 เดือน อาหารบำรุงครรภ์ และพัฒนาการทารกในครรภ์
- อาการคนท้อง 5 เดือน อาหารบำรุงครรภ์ และพัฒนาการทารกในครรภ์
- อาการคนท้อง 7 เดือน อาหารบำรุงครรภ์ และพัฒนาการทารกในครรภ์
- อาการคนท้อง 8 เดือน อาหารบำรุงครรภ์ และพัฒนาการทารกในครรภ์
- อาการคนท้อง 9 เดือน อาหารบำรุงครรภ์ และพัฒนาการทารกในครรภ์