ตั้งครรภ์ อาการคนท้องระยะแรก ช่วง 1 สัปดาห์ – 1 เดือน ถ้าเป็นแบบนี้ ท้องชัวร์

อาการคนท้องระยะแรก ช่วง 1 สัปดาห์ – 1 เดือน ถ้าเป็นแบบนี้ ท้องชัวร์
ตั้งครรภ์

Last Updated on 2021 11 03

ตั้งครรภ์ เกิดขึ้นได้อย่างไร เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญสำหรับครอบครัวที่มีบุตรยาก เพราะอย่างน้อยถ้าได้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับกระบวนการการตั้งครรภ์ก็จะทำให้วางแผนในการมีบุตรนั้นง่ายขึ้น และอาการของคนท้องในระยะแรกจะเป็นอย่างไร เรื่องนี้ต้องบอกเลยค่ะว่า ว่าที่คุณแม่แต่ละคนจะมีอาการต่างกันไป บางคนมีอาการแพ้ท้องมาก บางคนแพ้น้อย แต่ในขณะที่บางคนก็ไม่แพ้เลย แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าอาการนี้ใช้อาการของท้องหรือเปล่า ไปดูกันเลยค่ะ

ตั้งครรภ์ คือ?

ตั้งครรภ์

Photo by freestocks.org from Pexels

การตั้งครรภ์ คือ การฝังตัวของไข่ที่ถูกปฏิสนธิแล้วในมดลูกจนกระทั่งถึงการคลอด ปกติแล้วระยะของการตั้งครรภ์ส่วนใหญ่จะอาศัยระยะเวลาประมาณ 280 วัน หรือ 40 สัปดาห์ นับตั้งแต่วันแรกของประจำเดือนครั้งสุดท้าย แต่ทั้งนี้ก็อาจมีความแตกต่างกันไปสำหรับคุณแม่แต่ละคนนะคะ ถ้าหากคุณแม่ท่านไหนที่ออกกำลังกายเป็นประจำก็อาจคลอดลูกได้เร็วกว่าคุณแม่ที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายค่ะ ทารกหญิงอาจคลอดเร็วกว่าทารกชาย เพราะน้ำหนักโดยเฉลี่ยน้อยกว่า

ในบางครั้ง บางรายการตั้งครรภ์อาจเกินกำหนดไปโดยเฉพสาะในครรภ์แรก ซึ่งความจริงแล้วเป็นเรื่องเสี่ยงนะคะ เพราะรกอาจเสื่อม หมดอายุ ส่งผลให้การทำงานไม่ได้ประสิทธิภาพ เสี่ยงต่อการเสียชีวิตของทารกในครรภ์ได้ ส่วนใหญ่แล้วแพทย์จะไม่แนะนำให้คุณแม่อุ้มท้องผ่านวันครบกำหนดเกิน 10 วันค่ะ

ขอบคุณข้อมูล : healthserv.net

อาการคนท้องระยะแรก

ประจำเดือนขาด

ปกติแล้วประจำเดือนจะมีระยะเวลา 21 – 30 วัน โดยประมาณ หรือจะคลาดเคลื่อนจากเดิมก็ไม่เกิน 10 วัน ถ้ามากกว่านี้ก็เป็นได้สูงค่ะ ว่าอาจจะ “กำลังตั้งครรภ์” แล้ว เหตุที่ประจำเดือนขาดนั้นเกิดจากไข่เริ่มมีการปฏิสนธิกับอสุจิ ร่างกายก็จะผลิตฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน (Progesterone) ออกมาเป็นจำนวนมาก เพื่อเป็นการยับยั้งไม่ให้ผนังมดลูกหลุดลอกออกมากับประจำเดือนเหมือนที่เคยเป็นมาทุกเดือน

อารมณ์แปรปรวน ขี้หงุดหงิด

เมื่อ 5 นาทีที่แล้วหากคุณเพิ่งมีอารมณ์หงุดหงิด เหวี่ยงใส่คนข้าง ๆ มาตอนนี้นั่งหัวเราะอย่างอารมณ์ดี แถมมีอารมณ์อ่อนไหวง่าย ขี้น้อยใจ ร้องไห้เก่ง ฯลฯ ซึ่งเป็นอะไรที่คุณไม่เคยเป็นมาก่อน อาการเหล่านี้ก็เป็นสัญญาณที่บ่งบอกได้เลยค่ะว่านี่คือ “อาการของคนท้องระยะแรก” แต่อาการเหล่านี้จะเป็นอยู่ในช่วง 2 – 3 เดือนแรกค่ะ (บางคนหายเร็วกว่านั้น) แล้วก็จะหายได้เอง ถ้าว่าที่คุณแม่รู้เท่าทันอารมณ์ของตัวเอง ลองหาหนังสือมาอ่าน ฟังเพลง หรือหางานอดิเรกที่ชอบมาลองทำดู เพื่อให้ร่างกายได้ผ่อนคลายมากขึ้น และเป็นการเบี่ยงเบนความสนใจ เปลี่ยนจุดโฟกัสค่ะ

ตกขาวมากจนผิดปกติ

โดยลักษณะของตกขาวจะเป็นมูกเหลวสีขาวขุ่นหรือสีครีม แต่ไม่ต้องตกใจนะคะ ไม่มีอันตรายแต่อย่างใด เหตุเกิดจากบริเวณที่ปากมดลูกและช่องคลอดมีการสร้างของเหลวออกมา เพื่อหล่อลื่นบริเวณปากช่องคลอดอยู่แล้ว แต่ที่ว่าที่คุณแม่ควรทำคือ หมั่นทำความสะอาดบริเวณอวัยวะเพศอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดความอับชื้น ลดโอกาสการเกิดเชื้อรา แต่…ถ้าหากสีของตกขาวมีลักษณะที่ผิดปกติ เช่น มีสีเหลือง สีเขียว และมีอาการคันร่วมด้วย อาจสันนิษฐานได้ว่ามีการติดเชื้อบางอย่าง ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาอย่างถูกต้องค่ะ

การเปลี่ยนแปลงของเต้านม เจ็บหัวนม

เนื่องจากฮอร์โมนของรก และรังไข่ที่มีการผลิตเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้หัวนม และลานนมมีสีคล้ำขึ้น มีการขยายขนาดของเต้านม จึงทำให้ว่าที่คุณแม่มีอาการเจ็บบริเวณที่เต้านมมากขึ้นนั่นเองค่ะ

เวียนศีรษะ

ตั้งครรภ์ เวียนศีรษะ

Photo by Andrea Piacquadio from Pexels

บางรายอาจมีอาการปวดหัวในช่วงเช้าร่วมด้วย แต่จะเป็นมากในช่วงสัปดาห์แรกของการตั้งครรภ์ ดังนั้น ว่าที่คุณแม่ต้องดูแลตัวเองให้มากขึ้นด้วยการทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ดื่มน้ำเปล่าสะอาดอย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน พักผ่อนให้เพียงพอ เรียกว่าอ่อนเพลียตอนไหน ถ้าโอกาสและสถานที่อำนวยก็งีบพักได้เลยค่ะ ของแม่โน้ตได้หลับพักประมาณ 15 – 20 นาทีก็สดชื่นแล้วค่ะ

มีอาการล้าบริเวณหลัง

บางรายมีอาการเจ็บหลังช่วงล่างแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน บางรายอาจมีอาการตะคริวร่วมด้วย เหตุมาจากกล้ามเนื้อส่วนล่างมีการขยายตัว เป็นผลทำให้มดลูกมีการขยายตัว เพื่อรองรับทารกที่จะเติบโตอยู่ภายในมดลูกของคุณแม่ ซึ่งอาการปวดหลังหรือล้าที่หลังนี้จะเป็นอาการที่เกิดขึ้นตลอดการตั้งครรภ์ โดยเฉพาะเมื่ออายุครรภ์มากขึ้น

เพื่อบรรเทาอาการปวดหลัง เวลานอนให้คุณแม่นอนตะแคง และหาหมอนรองนอนมาวางที่ระหว่างขา ที่นอนก็ไม่ควรนิ่มหรือแข็งเกินไปนะคะ แต่ถ้าหากปวดหลังมากควรปรึกษาแพทย์นะคะ ไม่ควรซื้อยามาทานเองค่ะ

ปัสสาวะบ่อย

เป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่บ่งบอกได้ว่าคุณอาจเข้าสู่อาการของคนท้องระยะแรกแล้วล่ะค่ะ เพราะในช่วง 3 เดือนแรก ร่างกายจะผลิตของเหลวมากขึ้น กอปรกับมดลูกมีการขยายตัวมากขึ้นจึงทำให้ร่างกายมีความต้องการเลือดไปเลี้ยงมดลูกมากกว่าปกติ ไตจึงต้องทำงานหนักมากกว่าปกติเช่นกัน ขณะเดียวกันมดลูกที่อยู่ติดกับด้านหลังของกระเพาะปัสสาวะ เมื่อมดลูกขยายตัวขึ้นก็ทำให้ไปเบียดทับกระเพาะปัสสาวะ ทำให้คุณแม่ปัสสาวะบ่อยขึ้นนั้นเอง

ท้องผูกหรือท้องอืดมากกว่าปกติ

เนื่องมาจากฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนในร่างกายเพิ่มสูงขึ้นจึงมีผลต่อระบบย่อยอาหาร ผนวกกับมีการขยายตัวของมดลูกที่ไปเบียดทับลำไส้ ทำให้ลำไส้มีการบีบตัวน้อยลง ทำให้การย่อยจึงทำได้ยากขึ้น ย่อยได้ช้าลง เกิดแก๊สในกระเพาะมาก ดังนั้น คุณแม่จึงควรทานอาหารที่มีกากใยอาหารให้มากขึ้น ดื่มน้ำเปล่าสะอาดให้มากขึ้น เพื่อลดอาการท้องผูกค่ะ

อ่อนเพลียง่าย อยากนอน

เหตุเพราะร่างกายมีฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่เพิ่มมากขึ้น ส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือด ความดันเลือด รวมถึงระบบไหวเวียนในเลือด ทำให้กล้ามเนื้อในร่างกายมีการคลายตัว ร่างกายมีการเผาผลาญที่มากขึ้น ร่างกายจึงมีอุณหภูมิที่สูงขึ้น สูญเสียพลังงานมากขึ้น ส่งผลให้คุณแม่อ่อนเพลียนั่นเองค่ะ เพราะฉะนั้นระยะนี้คุณแม่ควรดูแลตัวเองด้วยการทานอาหารจำพวกโปรตีนและอาหารที่อุดมไปด้วยธาตุเหล็กเพิ่มมากขึ้นนะคะ ลดกิจกรรมต่าง ๆ ลง และพักผ่อนให้เพียงพอ ก็จะทำให้คุณแม่อารมณ์ดีขึ้น ซึ่งจะส่งต่อถึงลูกน้อยได้อีกด้วยค่ะ

อยากกินของเปรี้ยวหรือของแปลก

เนื่องจากความเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย ทำให้การรับรสของคุณแม่เปลี่ยนแปลงตาม ส่งผลให้อยากกินของเปรี้ยว หรือของแปลกค่ะ

จมูกรับกลิ่นได้ไวกว่าเดิม

เป็นหนึ่งในอาการเริ่มแรกของคุณแม่ อาการนี้เรียกว่า Super Smell อาทิ กลิ่นตัวของสามี เดิมที่เคยว่าหอม แต่มาช่วงนี้อาจเหม็นจนบางรายถึงขั้นอาเจียนเลยก็มี หรือบางรายเหม็นกลิ่นอาหารที่เคยชอบ เป็นต้น

ความต้องการทางเพศลดลง

เป็นเพราะร่างกายของคุณแม่มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ต้องรับมือกับการเวียนศีรษะ ปวดหัว ปวดหลัง หรืออาเจียน จึงทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย ความต้องการทางเพศจึงลดลงค่ะ

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ มีตรงกันไปกี่ข้อ ถ้าตรงเกินครึ่ง เตรียมซื้อเครื่องทดสอบการตั้งครรภ์มาทดสอบได้เลยค่ะ ถ้าจะให้ชัวร์ ควรซื้อมาซัก 3 ยี่ห้อนะคะ แล้วเตรียมเฮกันได้เลย

Feature Image Deigned by freepik.com

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ


Mommy Note

3,133,892 views

คุณแม่ลูกหนึ่ง ที่ใช้วิธีการเลี้ยงลูกแบบ "Tradigital" แบบดั้งเดิมผสมผสานกับความดิจิทัลในยุคปัจจุบัน เน้นเลี้ยงลูกให้เป็นคนธรรมดาที่มีสุข ติดต่องานได้ที่ e-mail : simplymommynote@gmail.com

Profile

Pickup posts

Related posts

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

Save